สีผสมอาหาร เป็นสีที่ใส่เพื่อจะช่วยแต่งเติมให้อาหารน่ารับประทานยิ่งขึ้น มีทั้งสีจากธรรมชาติซึ่ง เป็นสีที่ได้จากพืชและสัตว์ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น สีดำจากถ่าน สีแดงจากครั่ง เป็นต้น และ สีสังเคราะหส่วนมากจะเป็นสารพิษที่ร้ายแรงต่อร่างกาย มักมีตะกั่วและโครเมียมอยู่ เช่น สีย้อมผ้า สารพิษปนเปื้อนในอาหารที่ควรทราบมีดังนี้ 1. ดินประสิว (โพแทกเซียมไนเตรต)มีสูตรเคมีKMO3 นิยมใส่ในอาหารประเภทเนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อวัว ทำเนื้อเปื่อย สีสวย รสดี และเก็บไว้ได้นาน ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดสารไนโตรซามีน(nitrosamine)ซึ่งเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง 2. ปรอท พิษของสารปรอทที่ไปสะสมในสมอง ทำให้ประสาทหลอน ความจำเสื่อม เป็นอัมพาต เด็กในครรภ์ประสาทจะถูกทำลาย นิ้วมือหงิกงอ ปัญญาอ่อน และอาจตายได้ อาการเช่นนี้เรียกว่า โรคมินามาตะ 3. ตะกั่ว พิษตะกั่วเกิดจากสีและไอเสียรถยนต์ จะทำลายเซลล์สมอง ทำลายเม็ดเลือดแดง ปวดศีรษะ และอาจตายได้ 4. โครเมียม สารประกอบของโครเมียมใช้ทำสีย้อม พิษของโคเมียมเป็นอันตรายต่อผิวหนังและปอด 5. แคดเมียม มีพิษต่อปอดและไต ทำให้เกิดโรคอิไต-อิไต 6. สารหนุ ทำให้เกิดโรคไข้ดำ มีอาการเจียน ปวดท้องรุนแรง เป็นตะคริว 7.
การวิจัยพบว่าส่วนผสมเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะรบกวนตับสุขภาพของเส้นประสาทและเพิ่มการเติบโตของเนื้องอก นอกจากนี้ยังคิดว่าจะส่งผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์ให้เป็นสมาธิสั้นและไม่สามารถจดจ่อกับบางสิ่งได้ (ADHD) หลังจากทราบว่าวัตถุกันเสียในอาหารประเภทใดที่เป็นอันตรายคุณควรอ่านองค์ประกอบของส่วนผสมและประเภทของวัตถุกันเสียอาหารที่ระบุไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อ การระมัดระวังในการเลือกวิธีการรักษาเป็นหนึ่งในขั้นตอนเพื่อรักษาสุขภาพร่างกายของคุณและครอบครัว
ไขมัน 3. 1 กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ เช่น กรดไลโนเลอิค มีมากในน้ำมันพืช 3. 2 กรดไขมันที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นกรดไขมันที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้ มีอยู่ในอาหารไขมันทั่วไป 4. วิตามิน เป็นสารอาหารที่ร่างกายของเราต้องการในปริมาณน้อย แต่ก็ไม่สามารถขาดได้ ถ้าขาดจะทำให้ระบบร่างกายของเราผิดปกติ หรือเกิดโรคต่างๆได้ วิตามินแบ่งออกเป็น 2 พวก ได้แก่ 4. 1 วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี เค 4. 2 วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี และวิตามินบีรวม ร่างกายมีเกลือแร่ 4% ของน้ำหนักร่างกายทั้งหมด เกลือแร่ที่ร่างกายต้องการมีดังต่อไปนี้ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น 6. น้ำ น้ำมีความสำคัญและเป็นสิ่งจำเป็น ในแต่ละวันเราต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเติมออกซิเจนให้แก่อวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะสมองที่ต้องการออกซิเจนมากถึง ๑ ใน ๓ ของความต้องการออกซิเจนทั้งหมดของร่างกาย น้ำมีบทบาทสำคัญตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนทั้งช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลำเลียงอาหาร ลดความตึงเครียด คืนความสดชื่นภายหลังออกกำลังกาย และให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายในยามเข้านอน โดยปกติเราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ ๘ แก้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมรอบตัวในขณะนั้น
อาหารและสารอาหารคืออะไร?
ประเภทสารอาหาร - วิทยาศาสตร์ ป. 6 - YouTube
สารอาหาร คือ สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตบนโลกสำหรับมนุษย์ได้รับสารอาหารโดยการกิน ซึ่งจะช่วยในกระบวนการสร้าง ย่อยสลายและซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ในรางกายของเราต้องการต้องการสารอาหารมากกว่า 40 ชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย สารอาหารได้ถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมดโดยทั่วไป 6 ชนิด 1. คาร์โบไฮเดรต 2. โปรตีน 3. ไขมัน 4. วิตามิน 5. เกลือแร่ 6. น้ำ สารอาหาร แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มใหญ่ นี้จะทำหน้าที่ควบคู่กัน มีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายคนแตกต่างกัน ดังนี้ 1. คาร์โบไฮเดรต คาร์โบไฮเดรต เป็นสารประกอบอินทรีย์เคมี ซึ่งมีธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจนเป็นส่วนประกอบ พืชใช้พลังงานจากแสงแดดในการสังเคราะห์คาร์โบไฮเดรตจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศและน้ำซึ่งดูดจากดิน และจะสะสมอาหารในส่วนต่างๆของพืช เช่น เมล็ด ใบ หัว ลำต้น เป็นส่วนประกอบของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ มีธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบในปริมาณมาก ส่วนธาตุที่ประกอบในปริมาณน้อยได้แก่ กำมะถัน ฟอสฟอรัส เหล็ก โปรตีนจะแตกต่างกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกรดอะมิโนซึ่งเป็นส่วนประกอบย่อยของโปรตีน 3.
69 ในปี 2551 เพิ่มเป็น 0. 83 ในปี 2552 และ เพิ่มขึ้นเป็น 1. 91 ในปี 2553 โดยสารปนเปื้อนที่เพิ่มขึ้นจนน่าวิตก อันดับ 1 ได้แก่ จุลินทรีย์ก่อโรค จากร้อยละ 1. 19 ในปี 2552 เพิ่มเป็นร้อยละ 19. 66 ในปี 2553 อันดับ 2 คือ อะฟลาทอกซิน จากร้อยละ 0. 46 ในปี 2552 เพิ่มเป็นร้อยละ 10. 20 ในปี 2553 อันดับ 3 คือ สารเร่งเนื้อแดง จากร้อยละ 0. 17 ในปี 2552 เพิ่มเป็นร้อยละ 3. 10 ในปี 2553 ส่วนที่เหลือรองลงมา คือ ยาฆ่าแมลง ฟอร์มาลีน สารฟอกขาว สารกันรา ตามลำดับ พิษภัยของสารปนเปื้อนแต่ละชนิด 1. สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสุกร คุณสมบัติของสาร สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสุกรเป็นสารเคมีกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ (Beta-agonist) เช่น ซาลบลูทามอล (Salbutamol), เคลนบิวเทอรอล (Clenbuterol) ซึ่งปกติใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืดในคนและสัตว์เท่านั้น แต่มีการลักลอบนำมาใช้ผสมอาหารเลี้ยงสุกร เพื่อเพิ่มเนื้อแดงและลดไขมันตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ทำให้เกิดการตกค้างของสารนี้ในเนื้อสุกร ความเป็นพิษ ถ้าบริโภคสารนี้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศรีษะ หัวใจเต้นเร็ว เป็นตะคริว คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางประสาท มีผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ 2.
สารฟอกขาว คุณสมบัติของสาร สารฟอกขาวเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเปลี่ยนสีของอาหารไม่ให้เป็นสีน้ำตาล เมื่ออาหารนั้นถูกความร้อนในกระบวนการผลิต หรือถูกหั่น/ตัด แล้ววางทิ้งไว้ และยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์ รา บักเตรี สารเคมีดังกล่าวที่นิยมใช้เป็นสารกลุ่มซัลไฟต์ ได้แก่ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โซเดียมหรือโปแตสเซียมซัลไฟด์ โซเดียมหรือโปแตสเซียมไบซัลไฟต์ และโซเดียมหรือโปแตสเซียมแมตาไบซัลไฟต์ ซึ่งจะได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. )