ดื่มน้ำสมุนไพร ประกอบด้วย บอระเพ็ด ตะไคร้ มะรุม มะยม 5 แก้ว เวลา 09. ดื่มผงลิดท็อกซ์ ชงกับน้ำส้มเปรี้ยวจี๊ด คั้นมา 2 ผล ได้น้ำประมาณครึ่งแก้ว ผสมเกลือปลายช้อนชา เวลา 10. 20 น. ดื่มน้ำอัลคาไลน์ 700 ซีซี เวลา 10. 28 น. เจาะเลือด ตรวจระดับน้ำตาล ได้ค่า 136 มิลลิกรัม% วันนี้มิได้แตะต้องยาจากโรงพยาบาลเลย ดื่มน้ำสมุนไพรและงดอาหารเท่านั้น การล้างพิษคราวนี้ตั้งใจจะดื่มปัสสาวะด้วย เช้านี้ดื่ม 2 แก้ว รสชาติค่อนข้างขม อาจเกิดจากบอระเพ็ดถูกขับออกทางปัสสาวะ เวลา 10. 43 น. วัดความดันโลหิต ได้ค่า 138/73 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 65 ครั้ง/นาที เวลา 11. ดื่มน้ำแกงเหลืองไม่มีผักไม่มีปลา 1 แก้ว น้ำแกงเหลืองอุดมไปด้วย ขมิ้น หอม กระเทียม พริกขี้หนู ช่วยล้างและเคลือบลำไส้ได้อย่างดี เวลา 11. 40 น. ดื่มลิดท็อกซ์ชงในน้ำมะนาวหวาน โยมซื้อมะนาวมาจากร้าน 99 เซนต์ คั้นผสมผงลิดท็อกซ์ รสน้ำมะนาวออกหวานๆ นับว่า แปลก ที่พบมะนาวหวานในอเมริกา พออ่านข้างถุงเขียนว่ามะนาวหวานจริงๆ แต่ดื่มประมาณครึ่งแก้ว คงไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลตอนเย็นกระมัง เวลา 12. 15 น. ดื่มน้ำปัสสาวะอีก 1 แก้ว คราวนี้รสชาติจืดสนิทเหมือนน้ำบริสุทธิ์ทั่วไป ไม่รู้สึกแปลก อาจจะเพราะดื่มน้ำอัลคาไลน์เข้าไป 1, 400 ซีซี แล้วก็เป็นได้ เวลา 15.
ดื่มลิดท็อกซ์ชงด้วยน้ำอัลคาไลน์ เวลา 16. 10 น. ดื่มน้ำปัสสาวะ 1 แก้ว รสจืดสนิท เวลา 16. ดื่มน้ำมะระ ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ และน้ำมันมะกอก เวลา 16. ดื่มน้ำมะนาวหวานผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 แก้ว เวลา 16. 25 น. ดื่มกาแฟ 1 แก้ว เวลา 19. เจาะเลือดวัดระดับน้ำตาล ได้ค่า 96 มิลลิกรัม% เวลา 19. 19 น. วัดความดันโลหิต ได้ค่า 125/59 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 63 ครั้ง/นาที วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 04. ชั่งน้ำหนัก ได้ค่า 194 ปอนด์ เวลา 05. ทำวัตรเช้านั่งสมาธิ หลังจากทำวัตรเช้าและภาวนาแล้ว เวลา 06. 22 น. วัดความดันโลหิต ได้ค่า 123/66 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 67 ครั้ง/นาที เวลา 06. เมื่อวัดความดันโลหิตเสร็จแล้วเจาะเลือดวัดระดับน้ำตาล ได้ค่า 142 มิลลิกรัม% เวลา 06. ดื่มน้ำสมุนไพร ประกอบไปด้วย ตะไคร้ บอระเพ็ด มะรุม และมะยม 5 แก้ว เวลา 10. 35 น. วัดความดันโลหิต ได้ค่า 132/65 มิลลิเมตรปรอท ชีพจร 70 ครั้ง/นาที เวลา 10. 38 น. เจาะเลือดวัดระดับน้ำตาล ได้ค่า 104 มิลลิกรัม% เวลา 10. 48 น. ดื่มน้ำอัลคาไลน์ผสมน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 แก้ว เวลา 11. ดื่มน้ำปัสสาวะ 1 แก้ว รสจืดสนิท เวลา 12. ดื่มลิดท็อกซ์ผสมน้ำส้มคั้นสดจากต้น รสเปรี้ยวจี๊ด และดื่มน้ำส้มเปรี้ยวจี๊ดที่เหลือจนหมด ตามด้วยน้ำอัลคาไลน์อีก 1 แก้ว เรื่องการขับสิ่งปฏิกูลออกจากร่างกายครั้งแรกจะมีการสวน แต่เนื่องจากอุปกรณ์และสถานที่เวลาไม่พร้อมก็เลยงดไป ปล่อยให้ระบบขับถ่ายเป็นไปตามธรรมชาติ วันนี้ตอนใกล้ๆ 12.
ล้างผักเคลให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นผสมให้ละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวหรือ กระชอน กรองเอาเฉพาะน้ำเท่านั้น 2. เทน้ำผักเคลใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด ใส่น้ำผึ้ง เลม่อน เกลือป่น ให้รีบยกลงจากเตาทันที แล้วพักทิ้งไว้จนเย็น 3.
ปอกเปลือกแครอท หั่นแครอทเป็นชิ้นเล็กๆ คั้นน้ำมะนาว 2. ใส่แครอท น้ำมะนาว น้ำเชื่อม เกลือ น้ำแข็ง ปั่นให้ละเอียด ในช่วงระหว่างปั่นอาจจะเติมน้ำเปล่าเพิ่มเติมเพื่อให้ปั่นง่ายขึ้น น้ำตำลึง ตำลึง ผักริมรั้วธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีราคาอะไรมาก แต่มีประโยชน์ หรือ สารอาหารมากมาย เช่น เสริมภูมิต้านทาน มีแคลเซียมสูงบำรุงกระดูก เบต้าแคโรทีนในตำลึงยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นวิตามิน A บำรุงสายตาอีกด้วย ใบตำลึง 50 กรัม, น้ำ 200 มิลลิลิตร, น้ำผึ้ง, น้ำเลม่อน, เกลือป่น เล็กน้อย, น้ำแข็ง 1. ล้างใบตำลึงให้สะอาด ใส่ใบตำลึงทั้งหมด พร้อมน้ำต้มผักลง ในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด 2. กรองน้ำตำลึงด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่น้ำ นำน้ำตำลึงไปต้มจนเดือด ใส่เกลือ เมื่อเดือดให้รีบยกลงจากเตา พักให้เย็น 3.
ถ่าย 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกัน ครั้งแรกจะมีสิ่งปฏิกูลที่ลิดท็อกซ์ดูดซับออกมายาวเป็นคืบ ครั้งที่ 2 เป็นน้ำขุ่นข้น การขับถ่ายเช่นนี้เป็นสัญญาณบอกว่า กระบวนการล้างอวัยวะภายในได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการอีกแล้ว รู้สึกตัวเบาสบายขึ้น เพลียบ้างเป็นธรรมดาตามประสาการงดอาหารนั้นเอง เวลา 15. 50 น. ดื่มน้ำปัสสาวะ 1 แก้ว รสจืดสนิท ไม่มีกลิ่นและรสสมุนไพรหรือลิดท็อกซ์ที่ดื่มเข้าไปเจือปน น่าอัศจรรย์การทำงานของไตกรองธาตุน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ เวลา 16. ดื่มลิดท็อกซ์ผสมน้ำอัลคาไลน์ ต่อด้วยดื่มน้ำมะระ และดื่มน้ำสมุนไพรที่เหลือจากช่วงเช้า เป็นการระดมพืชรสขมเข้าไปขับไล่น้ำตาลที่สะสมอยู่ในร่างกาย ตามระบบคิดแบบตรรกะที่ว่า "มีมืดต้องมีสว่าง หากมีความหวานก็ต้องนำความขมเข้าไป ทำให้เจือจาง" ตรรกะดังกล่าวจะมีผลจริงหรือไม่ จะรู้ผลภายใน 5 วัน ตอนนี้การทดลองเข้าสู่วันที่ 2 มีแนวโน้มว่า พืชรสขมดังกล่าวจะเริ่มทำงานอย่างน่าจับตามอง แต่ยังไม่มีนัยสำคัญถึงกับจะเชื่อถือและใช้ได้เสมอไป เวลา 16. ดื่มน้ำปัสสาวะอีก 1 แก้ว รสชาติจืดสนิท ปลอดจากหวานเค็มและขม ท่านจักรกฤษณ์ ถามว่ารู้สึกจะอาเจียนไหม ตอบว่าดื่มได้สบายมากเหมือนดื่มน้ำบริสุทธิ์ ท่านฟังแล้วหัวเราะชอบใจ เวลา 17.