เจ้าท่า มีความเข้มแข็งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยมีว่างรากฐาน มีการรวมกลุ่มกันมาหลายปี จึงมีความพร้อมที่จะกล้าเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ จึงเข้าร่วมโครงการดังกล่าว มีการจัดพื้นที่เป็นโซนโคก หนอง นา โดยอาศัยน้ำจากคลองไส้ไก่ จาก 3 เดือนที่ร่วมโครงการ เห็นผลสำเร็จเกิดขึ้นในพริบตา โดยสามารถเปลี่ยนจากการทำนาเชิงเดี่ยว มาเป็นแหล่งผลิตภาคการเกษตรที่ครบวงจร เช่น ผลผลิตที่เป็น พริก มะเขือ ปลา นาข้าว ซึ่งสามารถเป็นอาชีพและรายได้อย่างยั่งยืน โดยในอนาคต ยังจะพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้เครือข่ายกลุ่มร้อยแก่นสารสินธุ์อีกด้วย ด้านนายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ. กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลโดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคกหนองนาโมเดล" ในพื้นที่ จ. กาฬสินธุ์ เฟสแรก 2, 246 แปลง และจะมีแปลงใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 302 แปลง รวม 2, 748 แปลง ซึ่งอยู่ในส่วนของการเตรียมการเอามื้อสามัคคี และจัดซื้อครุภัณฑ์สำหรับแปรรูปผลผลิต นายอุทัย กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคกหนองนาโมเดล" ที่ประสบความสำเร็จนั้น จากการติดตามผลพบว่าสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ภัยน้ำท่วม และความยากจนให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการอย่างยั่งยืน ซึ่งในวันนี้ได้นำสื่อมวลชนใน จ.
บุรีรัมย์ - เปิดต้นแบบ "โคก หนอง นา โมเดล" ครัวเรือนต้นแบบของ "ผู้ใหญ่สมบัติ" อ. โนนสุวรรณ จ. บุรีรัมย์ น้อมนำศาสตร์พระราชาเกษตรทฤษฎีใหม่ใช้บริหารจัดการพื้นที่แปลงเกษตรจากทำนาปลูกข้าวอย่างเดียว ปรับเปลี่ยนปลูกพืชผสมผสานทั้งนาข้าว พืชอายุสั้น ไม้ยืนต้น ขุดบ่อเลี้ยงปลา กบ และทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เองครบวงจร ให้เกิดการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน วันนี้ (1 ก. ย. ) สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์นำคณะสื่อมวลชนและอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้าน/ชุมชน (อป. มช. )
ป. ช. ลำปาง ร่วมกับชมรม STRONG ติดตามโครงการโคกหนองนาโมเดลในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง ครั้งที่ 3 7/10/2564 | 28 | นายเนติพล ชุมยวง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป. ช.
30 ก. ย.
นราธิวาส คือ โครงการ "โคก-หนอง-นา" ฟาร์มเกษตรตัวอย่าง ที่บ้านโคกไร่ใหญ่ ต. สุไหงปาดี อ. สุไหงปาดี และบ้านโคกโก ต. โต๊ะเด็ง อ.
กาฬสินธุ์ จัดโครงการออนซอนโคกหนองนาแก้ปัญหายากจนน้ำท่วมภัยแล้งยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อติดตามความสำเร็จที่แปลงโคกหนองนา ของนางอุบล เกษตรกรบ้านโจด ต. กมลาไสย ซึ่งมีแนวทางที่จะนำผลผลิตจำหน่ายในรูปแบบตลาดนัดสีเขียว และขยายผลสู่การสร้างชุมชนของเศรษฐกิจพอเพียงให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และเป็นรูปธรรม "ผลสำเร็จที่ติดตามมาจากการดำเนินการโครงการโคกหนองนา ยังสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ ที่มากกว่าแปลงเกษตร การปลุกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเปิดเสริมด้วยจุดเช็คอิน ร้านกาแฟ ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจระดับชุมชน สามารถสร้างงาน และรายได้ตลอดปี ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชน จ. กาฬสินธุ์ ยังได้ระดมสรรพกำลังและบูรณาการกับส่วนราชการต่างๆ ทั้งในส่วนของการผลิต การแปรรูป การตลาด เพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคกหนองนาโมเดล" ให้เกิดความมั่งคั่ง ยั่งยืน ด้วยเกษตรปลอดภัย ตามวิสัยทัศน์ของ ผวจ. กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างรายได้ ลดรายจ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19" นายอุทัยกล่าวในที่สุด ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ภูมิภาค พช. กาฬสินธุ์นำสื่อทัวร์ออนซอนโคกหนองนาโมเดล แก้ปัญหาน้ำท่วม-ภัยแล้งยั่งยืน วันจันทร์ ที่ 27 กันยายน พ. ศ. 2564, 20. 24 น. ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง บ้านหนองโจด หมู่ 10 ต. เจ้าท่า อ. กมลาไสย จ. กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ. กาฬสินธุ์ นายสัมฤทธิ์ กิตติโชติ สุขสงค์ นายอำเภอกมลาไสย นายมีชัย นาใจดี หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน และนางอุไลย์ ทบวัน เจ้าของศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชน จิตอาสา เกษตรกร และสื่อมวลชนร่วมกันเปิดป้ายศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน กรมพัฒนาชุมชน ภายใต้มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 จากนั้น นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.
ศ. 2564 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ "โคก หนอง นา โมเดล" ทั้งหมด 23 แปลง และโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" แปลงพื้นที่ระดับตำบล (CLM) ขนาดพื้นที่ 10 ไร่ จำนวน 3 แปลง และ 15 ไร่ จำนวน 4 แปลง แปลงพื้นที่ระดับครัวเรือน (HLM) ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ จำนวน 70 แปลง และขนาด 3 ไร่ จำนวน 76 แปลง รวม 153 แปลง และมีการจ้างงานนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต. ) ทั้งสิ้น 86 คน ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะตรวจติดตามการดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฏีใหม่ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในกิจกรรมดังกล่าว โดยขอให้เป็นไปตาม พ. ร. บ. การจัดซื้อจัดจ้าง และระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งดำเนินการปรับพื้นที่ตามแบบแปลนที่กำหนด โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่กลุ่มเป้าหมายจะได้รับสูงสุด ที่มา คะแนนโหวต:
วางแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการจัดตั้งศูนย์ศึกษาฯ กฟผ. กระจายสู่ 10 พื้นที่ กฟผ. มุ่งส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง อย่างยั่งยืนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง โดยวางแนวทางการนำ "โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน" มาผสมผสานปรัชญา "โคก หนอง นา โมเดล" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ด้วยการจัดตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในพื้นที่ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันได้เปิดทำการไปแล้วถึง 6 แห่ง ได้แก่ เขื่อนศรีนครินทร์ จ. กาญจนบุรี เขื่อนภูมิพล จ. ตาก โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ. ลำปาง เขื่อนสิรินธร จ. อุบลราชธานี เขื่อนวชิราลงกรณ จ. กาญจนบุรี และ เขื่อนสิริกิติ์ จ. อุตรดิตถ์ อีกทั้งจะทยอยเปิดอีก 4 แห่ง ที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา โรงไฟฟ้าวังน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา เขื่อนจุฬาภรณ์ จ. ชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ จ. ขอนแก่น ให้แล้วเสร็จตามแผนครบจำนวน 10 แห่ง ภายในปี 2564 ศูนย์ศึกษาฯ ทั้ง 10 แห่ง นี้ มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานในรูปแบบที่เรียกว่า "โคก หนอง นา โมเดล วิถีใหม่" ซึ่งเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ กับโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ.
ศ. 2564 กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ "โคก หนอง นา โมเดล" ทั้งหมด 23 แปลง และโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ "โคก หนอง นา โมเดล" แปลงพื้นที่ระดับตำบล (CLM) ขนาดพื้นที่ 10 ไร่ จำนวน 3 แปลง และ 15 ไร่ จำนวน 4 แปลง แปลงพื้นที่ระดับครัวเรือน (HLM) ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ จำนวน 70 แปลง และขนาด 3 ไร่ จำนวน 76 แปลง รวม 153 แปลง และมีการจ้างงานนักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต. ) ทั้งสิ้น 86 คน ข้อมูล คะแนนโหวต: