โอเลี้ยง: "ไม่มีๆ ขอผลัดไปก่อน โทรมาทวง บอกขอเวลาหน่อย เดี๋ยวก็มีงานเข้ามา รอโควิดหายก่อนแล้วค่อยว่ากัน พอเจ้าหนี้มาทวง แล้วต้องไปหยิบยืมเขา รู้สึกยังไงกับชีวิตบ้างตอนนี้? โอเลี้ยง: "ณ ตอนนั้นจุกอกเหมือนกัน มันก็ไม่รู้จะโทษใคร ก็โทษตัวเอง เราต้องยอมรับตัวเอง ยอมรับสภาพว่าเขาดูถูกก็เขาดูถูก ช่างมัน เราเป็นจริงนิ ไปโทษใครได้" คิดว่ามันเกี่ยวกับการบริหารการเงินที่ผิดพลาดของตัวเราเองด้วยไหม ที่เราได้มาใช้ไป แล้วเราไม่มีเก็บไว้สำหรับอนาคตอาจจะลำบาก? โอเลี้ยง: "มันมีส่วนว่าเราบริหารจัดการยังไม่เก่ง ยังไม่รู้จะจัดการระบบไหน พอได้มาก็ใช้ไป ไม่รู้จักวางแผนระยะยาว มันก็เป็นแบบนี้" คำว่าตกอับ ได้ยินคำนี้ รู้สึกยังไง? โอเลี้ยง: "คิดว่ามันเป็นวาทะกรรมมากกว่า ตลกตกอับ ศิลปินตกอับ เราก็ยอมรับนะ ผมโอเค ผมตกอับ คนจะพูดก็พูดไป ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว หมดหนทางจริงๆ ผมจะไปโต้แย้งอะไร ผมก็อับจริงๆ ถ้าเราอับไม่จริงเราเถียงได้ เราเถียงไม่ได้ เรายอมรับ ส่วนเรื่องตาตอนนี้ไม่คิดจะตัดแล้ว เพราะอยากเห็นอนาคตลูกมากกว่า อีกอย่างเรามาคิดว่า คนก็มาดูถูกขายตาไปแล้ว แล้วต่อไปไม่ขายไตเหรอ ไม่ขายตับ คนไม่ใช่หมูจะได้ขายทุกอย่าง (พูดด้วยความน้อยใจโชคชะตา? )
2481 แต่อย่างใดไม่ จึงเกิดความไม่เข้าใจว่า ตอบข้อหารือข่้างล่างนี้ "ขอบธรรม" ดีแล้วหรือ เลขที่หนังสือ: กค 0702/4859 วันที่: 13 สิงหาคม 2551 เรื่อง: ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการลดทุนบริษัท ข้อกฎหมาย: มาตรา 40 (4)( ง) แห่งประมวลรัษฎากร ข้อหารือ: 1. บริษัท ล. ไม่ได้ประกอบกิจการ แต่มีเงินได้จากเงินปันผลเมื่อปี 2549 และมี เงินได้จากดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคาร ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ. ง. ด. 50 รอบระยะ เวลาบัญชีปี 2549 เพื่อขอคืนภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และตามบัญชีงบดุลของบริษัทฯ ปรากฏว่า บริษัทฯ มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2548 จำนวน 4, 044, 817. 52 บาท และในปี 2549 จำนวน 3, 669, 289. 51 บาท 2.
สยามรัฐออนไลน์ 15 ตุลาคม 2564 11:01 น. เศรษฐกิจ สบน. ร่วมกับกรมสรรพากร ธปท. และธนาคารกรุงไทยผนึกกำลังภาครัฐยกระดับบริการขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่าย โดยเป็นครั้งแรกที่ผู้ลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์สามารถขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่ายจากดอกเบี้ยพันธบัตรที่ซื้อจากตลาดรองในส่วนที่ได้รับยกเว้นผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ทำให้การลงทุนง่ายและสะดวกกว่าเดิม ตอบโจทย์นโยบายการลงทุนด้วยนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า สบน. พัฒนาต่อยอดการลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตังอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับบริการภาครัฐ โดยผู้ที่เข้าเกณฑ์ได้รับยกเว้นภาษีและได้รับเงินคืนจะเป็นผู้ซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ในตลาดรองผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งได้เชื่อมโยงข้อมูลภาษีกับกรมสรรพากร ทำให้สามารถตรวจสอบการหักภาษีตามจำนวนวันที่ถือครองจริง โดยหากได้รับสิทธิยกเว้นภาษี ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนเข้าวอลเล็ต สบม. ประมาณ 10 วันทำการ หลังจากได้รับดอกเบี้ย การดำเนินการในครั้งนี้ นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการขอคืนภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้กับผู้ลงทุนอัตโนมัติ ซึ่งผู้ลงทุนยังสามารถเรียกดูรายการภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้จากวอลเล็ต สบม.
136 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศที่เป็น tax haven ต่างพร้อมใจลงนาม ตกลงเห็นชอบเรียกเก็บภาษีบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติขั้นต่ำ 15% เรื่องนี้ Rishi Sunak รัฐมนตรีคลังกล่าวไว้ว่า มันเป็นความตกลงที่ถือว่าเป็นการยกระดับระบบภาษีโลกสำหรับโลกยุคสมัยใหม่ ตอนนี้เรามีระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมมากขึ้นสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกทั้งหลาย ไม่ว่าเขาจะไปทำธุรกิจที่ไหน เขาก็สามารถจ่ายภาษีนั้นได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น ประเด็นเรื่องเรียกเก็บภาษีบริษัทข้ามชาตินี้ OECD เป็นองค์การระหว่างประเทศที่เป็นแกนกลางในการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือร่วมกันและอาจจะสร้างเม็ดเงินจากภาษีในระดับมหาศาลถึง 1. 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4. 98 ล้านล้านบาทต่อปี สิ่งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก ทำให้หลายประเทศสามารถฟื้นตัวจากโควิด-19 ระบาดได้ ไอร์แลนด์ ฮังการีและเอสโตเนียคือกลุ่มประเทศที่คิดอัตราภาษีบริษัทในระดับที่ต่ำกว่า 15% โดยไอร์แลนด์คิดภาษีบริษัทต่างประเทศอยู่ที่ 12.
1 ต้องนำส่งภายใน: วันที่ 7 ของเดือนถัดไป หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์ ถ้าติดวันหยุดก็เป็นวันทำการถัดไป ผู้ที่ต้องหัก: ผู้จ่ายทุกคน บุคคลธรรมดาก็ต้องหัก เพิ่มเติม: หลายคนอาจจะคิดในใจว่า รับจ้างทำงานให้ ไม่ใช่รับทำของแล้วหัก 3% หรอ? ตรงนี้แหละครับที่เริ่มจะต้องใช้การตีความและข้อเท็จจริงบางอย่างเพื่อแบ่งระหว่างจ้างทำของกับรับจ้างทำงานให้ * ความแตกต่างระหว่าง "จ้างทำของ" กับ "รับทำงานให้" นั่นแยกได้ไม่ยากมากครับ นั่นคือ จ้างทำของผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ หรือเครื่องมือที่สำคัญในการทำงานเอง ผู้จ่ายเงินไม่ได้หามาให้ อันนี้ถือเป็นการทำธุรกิจแบบนึง ในกรณีนี้หัก 3% ครับ แต่ว่าถ้าเป็นการขายของให้ หรือจ้างเป็นเซลล์ให้ส่วนแบ่งการขาย อันนี้ให้คำนวณเหมือนเค้าเป็นพนักงานเลยครับ เพราะว่าไม่ได้เป็นการใช้อุปกรณ์อะไรเป็นการเฉพาะ * 3. จ้างทำของ / จ้างรับเหมา (เงินได้ประเภทที่ 7/8) ตามที่ได้อธิบายไว้ด้านบนครับ ถ้าคุณจ้างใครทำอะไรให้ แล้วเค้าต้องใช้อุปกรณ์อะไรของเค้าเอง เช่น จ้างเขียนโปรแกรม เค้าต้องไปหาคอมพิวเตอร์และโปรแกรมที่ใช้เขียนเอง อันนี้ก็ถือเป็นการจ้างทำของ หรือถ้าคุณจ้างออกแบบให้ เค้าต้องไปหาคอมพ์และโปรแกรมออกแบบเองอันนี้ก็ถือเป็นการจ้างทำของ แต่ถ้าคุณมีอุปกรณ์อะไรให้ครบครั้น แล้วให้เค้าออกแบบให้เฉยๆ อันนี้ถือว่าเป็นการจ้างทำงานให้ (เงินได้ประเภทที่ 2) ฟังดูไม่ยากใช้มั้ยครับ?
เมื่อจ่ายเงินที่เกิน 1, 000 บาทในคราวเดียว หรือหลายคราวรวมกันก็แล้วแต่ เช่นถ้าคุณแบ่งจ่ายบริการมูลค่า 1, 200 บาท 2 ครั้ง ครั้งละ 600 บาท คุณต้องหักไว้ทั้ง 2 ครั้งด้วย แม้แต่ละครั้งจะไม่เกิน 1, 000 บาท รายการอะไรบ้างที่เราต้องหัก และนำส่ง เมื่อจ่ายให้บุคคลธรรมดา 1. เงินเดือน ค่าจ้าง (เงินได้ประเภทที่ 1) อันนี้ชัดเจนครับ ถ้าคุณจ่ายเงินให้พนักงานหรือคนที่จ้างทำงานให้ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือสิ่งที่ต้องหักเอาไว้ด้วยนะครับ ต้องหักเท่าไหร่: ต้องคำนวณเงินได้ทั้งปี หักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้วหักตามอัตราก้าวหน้า เหมือนกับคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครับ ซึ่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ประเภทนี้คือประเภทที่เป็นไปได้ตั้งแต่ 0 คือไม่หักเลย หรือเป็นเท่าไหร่ก็แล้วแค่คำนวณครับ วิธีการคำนวณแนะนำให้ถามนักบัญชี หรือฝ่ายบุคคลดูนะครับ หรือถ้ามีเวลาจะเขียนการคำนวณในอีกบทความต่อไป แบบภาษีที่ต้องใช้นำส่ง: ภ. ง. ด. 1 ต้องนำส่งสรรพากรภายใน: วันที่ 7 ของเดือนถัดไป หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์ ถ้าติดวันหยุดก็เป็นวันทำการถัดไป ผู้ที่ต้องหัก: ผู้จ่ายทุกคน บุคคลธรรมดาก็ต้องหัก 2. จ้างทำงานให้ (เงินได้ประเภทที่ 2) ถ้าคุณจ่ายเงินให้บุคคลธรรมดาที่เค้ารับทำอะไรบางอย่างให้ เช่น เป็นนายหน้าขายของ ได้ส่วนแบ่งค่าคอม หรือรับทำ หรือให้บริการอะไรบางอย่าง ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คือสิ่งที่ไม่ควรลืมเลยล่ะครับ ต้องหักเท่าไหร่: เหมือนข้อ 1 เลยครับ แบบภาษีที่ต้องใช้นำส่ง: ภ.
เงินเดือนเท่าไหร่ไม่เสียภาษี และการคิดภาษีพนักงานประจำ - YouTube
เงินได้เนื่องจากหน้าที่งานที่ทำ 2. เงินได้เนื่องจากทรัพย์สิน และ 3. เงินได้เนื่องจากกิจการที่ทำ เพราะหากไม่ผ่านกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งในสามกิจกรรม อันเป็น "บ่อเกิดของเงินได้" นี้ ย่อมไม่เข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมิน ซึ่งเงินได้พึงประเมินจำแนกออกเป็น 8 ประเภทตาม มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร โดยอาจสังเคราะห์ประเภทเงินได้พึงประเมินตามบ่อเกิดของเงินได้ได้ดังนี้ 1. เงินได้เนื่องจากหน้าที่งานที่ทำ ได้แก่ เงินได้พึงประเมินตาม มาตรา 40 (1) เงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน และ ( 2) เงินได้เนื่องจากหน้าที่หรือตำแหน่งงานที่ทำหรือเงินได้จากการรับทำงานให้ แห่งประมวลรัษฎากร 2. เงินได้เนื่องจากทรัพย์สิน ได้แก่ เงินได้พึงประเมินตาม มาตรา 40 (3) เงินได้เนื่องจากทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ ค่าแห่งกู๊ดวิล ค่าแห่งลิขสิทธิ์ และ ( 4) ผลได้จากทุนทั้งหลาย แห่งประมวลรัษฎากร และ 3.