สำหรับ การเรียนออนไลน์ ม. ปลาย (ม. 4, ม. 5, ม. 6) Post navigation
เชื่อมต่อผ่านสาย LAN ( Wired - ใช้สาย) 2. เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Adapter USB ( Wireless - ไร้สาย) 3.
มีหลายคนอาจจะยังเข้าใจว่ากล่อง Apple TV, แอป Apple TV และ Apple TV+ นั้นเป็นแอปเดียวกันหรือเป็นบริการเดียวกัน และยังไม่ทราบว่ามีความแตกต่างอย่างไร ทีมงานมีคำอธิบายที่จะช่วยไขข้อสงสัยมาให้ชมกันค่ะ กล่อง Apple TV แอป Apple TV และบริการ Apple TV+ แตกต่างกันอย่างไร ใช่แอปเดียวกันหรือไม่? ก่อนอื่นขอให้ดูแผนภาพนี้ก่อนจะได้เห็นภาพรวมชัดเจนขึ้นและเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง กล่อง Apple TV, แอป Apple TV และบริการ Apple TV+ 1. กล่อง Apple TV ณ ปัจจุบันกล่อง Apple TV มีให้เลือก 2 รุ่นคือ Apple TV HD และ Apple TV 4K ซึ่งกล่องนี้ทำหน้าที่รวมความบันเทิงต่าง ๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการดูภาพยนตร์ต่าง ๆ จาก iTunes Store โดยส่วนนี้เนื้อหาจะต้องเช่าหรือซื้อ, การติดตั้งแอปเกมต่าง ๆ ลงที่อุปกรณ์และเล่นได้รวมไปถึงใช้งานเกมบน Apple Arcarde ได้อีกด้วย ฯลฯ กล่องนี้จะใช้งานได้ต้องเชื่อมต่อสัญญาณภาพผ่านสาย HDMI ไปยังสมาร์ตทีวีถึงจะสมบูรณ์แบบ และที่สำคัญ เจ้ากล่องตัวนี้จะมีแอป Apple TV ติดตั้งมาพร้อม tvOS ข้างในด้วยเลย เล่ามาถึงจุดนี้แล้วคงจะมองภาพของกล่อง Apple TV ได้ชัดเจนขึ้นนะ ก่อนที่จะไปสู่เรื่องของแอป Apple TV ในข้อต่อไป 2.
Smart TV ทำอะไรได้บ้าง?? - YouTube
Local Content: คือแอพพลิเคชั่นต่างๆที่เป็นของคนไทย ภาษาไทย ใช้งานได้อย่างสะดวกเช่น MTHAI, Major Cineplex, SF Cinema, Traffy, Nation Channel 2.
ควบคุมจาก Application บน Smart Phone: สำหรับวิธีนี้ต้องการ Smart Phone รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือว่า iOS ก็สามารถเข้าไปค้นหา แอพพลิเคชั่น รีโมท จากทาง Android Market หรือ App Store ได้ฟรี ข้อดีคือจะทำให้สามารถพิมพ์ " ภาษาไทย " ได้ และมีความคล่องตัวในการใช้งานมาก โดยการเชื่อมต่อนั้นจะต้องเชื่อมต่อผ่าน วง LAN เดียวกันกับตัวทีวีด้วยครับ 4. การควบคุมด้วยเสียง / ท่าทาง / ระบบจดจำใบหน้า ( Samasung ES8000, ES7500, E8000): ถือ เป็นทีวีรุ่นแรกที่บุกเบิกคำสั่งนี้ครับ ทำให้การควบคุมทีวีสะดวกกว่าที่เป็นอยู่ รวมถึงนำเอาไปประยุกต์ใช้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อีกด้วย
ฟังก์ชั่นของทีวีนั้นมีเยอะมาก แต่ปุ่มในรีโมทมันเป็นแค่ตัวเลข และปุ่มทิศทางเท่านั้น เวลาพิมพ์จะสะดวกหรือเปล่า " จริงๆ แล้วการควมคุมให้ง่ายขึ้นก็เป็นเรื่องที่ทางแต่ละยี่ห้อต้องพยายามปรับตัว เข้าหาผู้บริโภคอย่างเราๆกันให้มากที่สุด เพื่อให้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน เพราะความยากง่ายในการควบคุมทีวีก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเลือกซื้อ Smart TV เช่นกัน 1. ควบคุมจากรีโมททีวี: โดยปกติแล้วทุกยี่ห้อจะคล้ายๆ กันทั้งหมด อาจจะแตกต่างกันในด้านการวางตำแหน่งและดีไซน์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปุ่มควบคุมทิศทาง จะใช้ในการเลื่อนตำแหน่งไปยังส่วนที่ต้องการ และปุ่ม OK เพื่อใช้เลือก วิธีการพิมพ์ก็จะทำได้แค่ "ภาษาอังกฤษ" เท่านั้น โดยใช้ปุ่มตัวเลขเป็นแป้นคีย์บอร์ด ( เช่นเลข 2 บนรีโมทจะมี A B C ถ้าต้องการพิมพ์ C ให้กดเลข 2 จำนวน 3 ครั้ง) ตัวอย่างรุ่น Samsung ES8000 2. ควบคุมจากอุปกรณ์เสริมเช่น เมาส์และคีย์บอร์ด: ใน จุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ต่างๆ ว่าจะสามารถพัฒนาตัวทีวีให้รองรับกับคีย์บอร์ดและเมาส์ได้หรือไม่ โดยวิธีการเชื่อมต่อจะทำผ่านช่อง USB 2. 0 เท่านั้น ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายในการพิมพ์ตัวอักษร ( วิธีการเปลี่ยนภาษาคือ (ALT+ <- alt="" br="" nbsp=""> ถัดมาก็คือตัว Magic Motion Remote จาก ทาง LG ที่ใช้รีโมทเป็นตัวชี้ไปยังหน้าจอทีวี และใช้ปุ่มเพียงปุ่มเดียวควบคุมได้ทุกอย่าง ง่ายต่อการใช้งานอีกเหมือนกัน ( คล้ายๆกับการใช้งานของ Nintendo Wii) 3.
เจาะลึก!!! พาไปรู้จักกับ Smart TV, Internet TV มันคืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?