รายละเอียด เหรียญเสมาท่านพ่อลี วัดอโศการาม จ. สมุทรปราการ ปี 2503 เนื้อเงิน สภาพพอสวย ติดรางวัลที่3 งานประกวดของกองทัพภาคที่ 1 ณ มหาวิทยาลัยธรรมาสตร์ รังสิต 25 พย 55 ติดรางวัลที่3 งานประกวดพระที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2555 ติดรางวัลที่2 งานประกวดของชมรมพระเครื่องเมืองนครปฐม ณ องค์พระปฐมเจดีย์ จ. นครปฐม วันที่ 20 มกราคม 2556 เหรียญเนื้อเงินหายากมากครับ และบล็อคไม่แตกแบบนี้นิยมสุดครับ ดูเพิ่มเติม
หน้าแรก » บทความ » เหรียญปั๊มที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา ปี 2503 หลวงพ่อลี วัดอโศการาม หลวงพ่อลี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า 'ท่านพ่อลี' อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม จ. สมุทรปราการ ศิษย์สายวิปัสสนากรรมฐานอันดับต้นๆ ของ 'พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต' ผู้ริเริ่มและสร้าง 'วัดอโศการาม' จนเจริญรุ่งเรืองและมีชื่อเสียงมาจวบถึงปัจจุบัน เป็นที่เคารพศรัทธาของลูกศิษย์ลูกหาและสาธุชนทั่วไป แม้แต่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ยังมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อลี ธมมธโร เป็นชาวบ้านหนองสองห้อง อ. ม่วงสามสิบ จ. อุบลราชธานี เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ. ศ. 2449 ตอนเด็กค่อนข้างเลี้ยงยาก งอแง และขี้โรค อายุ 12 ปี เริ่มเรียนหนังสือไทย แต่มีสิ่งหนึ่งในความคิดตลอดเวลาก็คือ เรื่องบาปบุญและความปรารถนาที่จะบวชเป็นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนา จนในปี พ. 2468 อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงสมปรารถนาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ สังกัดมหานิกาย หลวงพ่อลีได้มีโอกาสพบและฟังเทศน์จาก 'พระอาจารย์บท' ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น อีกทั้งได้เห็นถึงปฏิทาและการปฏิบัติสังฆกิจต่างๆ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธา ตัดสินใจออกธุดงค์ติดตามพระอาจารย์บท เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ.
อุบลราชธานี ซึ่งท่านได้รับการแนะนำสั่งสอนเพียงสั้นๆ ว่า "คำว่า "พุทโธ" นี้ คือความพิเศษ เป็นดวงแก้วแห่งธรรม" อันเป็นอุบายเบื้องต้นในการปฏิบัติกรรมฐาน นอกจากนี้ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากพระอาจารย์สิงห์ ขนตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปญญาพโล ที่ บ้านท่าวังหิน อันเป็นสถานที่เงียบสงบเหมาะแก่การเจริญกรรมฐาน ท่านพากเพียรปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน จนปี พ. 2471 จึงขอแปรญัตติจากมหานิกายเป็น 'ธรรมยุตินิกาย' โดย พระอาจารย์มั่น เป็นผู้บรรพชาให้เป็นสามเณร และพระปัญญาพิศาลเถระ (หนู) วัดสระปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นออกธุดงค์กับพระอาจารย์มั่นเรื่อยมา จนพระอาจารย์ให้ออกธุดงค์โดยลำพัง ท่านจึงออกธุดงค์กรรมฐานไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงเขมร พม่า และอินเดีย จนในที่สุดมาจำพรรษาที่ 'สำนักสงฆ์แม่ชีขาว' จ.
2500 ท่านมรณภาพเมื่อปี พ. 2504 สิริอายุ 55 ปี 3 เดือน 35 พรรษา ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Google.
2449 เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ใน ปี พ. 2468 ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ ในสังกัดมหานิกาย ต่อมาท่านได้พบพระอาจารย์มั่น ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดบูรพา จ. อุบล ราชธานี ท่านได้รับการแนะนำสั่งสอนจากพระอาจารย์มั่น เพียงสั้นๆ ว่า คำว่า "พุทโธ" นี้ คือความพิเศษ เป็นดวงแก้วแห่งธรรม อันเป็นอุบายเบื้องต้นในการปฏิบัติกรรมฐาน นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเพิ่มเติมจากพระอาจารย์สิงห์ ขนตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่บ้านท่าวังหิน อีกด้วย หลวงพ่อลีท่านพากเพียรปฏิบัติธรรมและวิปัสสนากรรมฐาน จน ปี พ. 2471 ท่านจึงได้เข้าญัตติเป็นพระธรรมยุต ที่ วัดบูรพา โดยพระอาจารย์มั่นเป็นผู้บรรพชาให้เป็นสามเณร และพระปัญญาพิศาลเถร (หนู) แห่งวัดสระปทุม เป็นพระอุปัชฌาย์ เริ่มแรกท่านออกธุดงค์พร้อมพระอาจารย์มั่น ต่อมาจึงไปโดยลำพังยังสถานที่ต่างๆ รวมทั้งเขมร พม่า และอินเดีย และได้มาจำพรรษาที่สำนักสงฆ์แม่ชีขาว จ. สมุทรปราการ เริ่มก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ และพัฒนาเรื่อยมาจนเป็น "วัดอโศการาม" สมณศักดิ์สุดท้ายได้รับพระราชทาน เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระสุทธิธรรมรังสี คัมภีรเมธาจารย์ ใน ปี พ.
2500 และมรณภาพเมื่อปี พ.
ราม วัชรประดิษฐ์ Share: