การรักษาที่จำเพาะต่อภาวะไอจามปัสสาวะเล็ด 3. การรักษาที่จำเพาะต่อภาวะปัสสาวะราด 3. 1 การฝึกการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Training) มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้กระเพาะปัสสาวะเก็บปัสสาวะได้มากขึ้น วิธีการฝึกคือการค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาระหว่างการไปเข้าห้องนํ้ากับการพยายามกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นทีละน้อยเมื่อมีความรู้สึกต้องการถ่ายปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการฝึกการทำงานของกระเพาะปัสสาวะควรฝึกภายใต้การดูแลของแพทย์ 3. 2 การใช้ยา ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะซึ่งจะช่วยให้กลั้นปัสสาวะได้นานขึ้นและช่วยลดภาวะปัสสาวะราด อย่างไรก็ตามผู้ป่วยอาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น อาการปากแห้ง ตาแห้ง ท้องผูก ยากลุ่มนี้มีหลายชนิดบางครั้งผู้ป่วยอาจต้องเปลี่ยนชนิดยา 1-2 ครั้งจึงจะพบยาที่ช่วยบรรเทาอาการได้ดีที่สุด โดยทั่วไปการใช้ยาถือเป็นการรักษาที่มาเสริมกับการรักษาหลักที่ได้กล่าวไปข้างต้นและมักจะใช้ยาเป็นระยะเวลาเพียงประมาณ 3 เดือนเท่านั้น 3. 3 การฉีดโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) คือ การส่องกล้องเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะและฉีดท็อกซินเข้าไปในผนังของกระเพาะปัสสาวะเพื่อให้กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะคลายตัวเพื่อลดการปวดปัสสาวะแบบฉับพลันและช่วยให้กระเพาะปัสสาวะเก็บปัสสาวะได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามท็อกซินจะออกฤทธิ์อยู่นานประมาณ 6-9 เดือน หลังจากนั้นอาจต้องมีการฉีดซํ้า ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจมีอาการปัสสาวะยากหรือปัสสาวะคั่งตามมาและจำเป็นต้องใช้การสวนปัสสาวะช่วงระยะเวลาหนึ่ง 3.
หลายคนคงเคยอั้นฉี่หรือกลั้นปัสสาวะเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น การปวดปัสสาวะขณะรถติด การเดินทางที่ต้องอยู่บนรถเป็นเวลานาน หรือเมื่อมีภาระหน้าที่ที่ยุ่งมาก ซึ่งอาจทำให้บางคนกังวลว่าการอั้นฉี่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยไขข้อข้องใจและช่วยแนะนำวิธีหากจำเป็นต้องอั้นฉี่โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำไมร่างกายคนเราถึงอั้นฉี่ได้?
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้หลังมีการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง(Stress Urinary Incontinence) หรือภาวะไอจามปัสสาวะเล็ด ในภาวะปกติสตรีจะมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ทำหน้าที่พยุงท่อปัสสาวะให้อยู่นิ่งและช่วยทำหน้าที่อุดกั้นท่อปัสสาวะเมื่อเกิดการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น การไอหรือจาม การหัวเราะ การออกกำลังกาย แต่หากเกิดการบาดเจ็บหรือความเสื่อมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันดังกล่าวย่อมทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดตามหลังการเพิ่มแรงดันในท้องได้ 2. ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้หลังมีอาการปวดปัสสาวะฉับพลัน (Urgency Incontinence) หรือภาวะปัสสาวะราด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน โดยมักมีอาการตามหลังอาการปวดปัสสาวะฉับพลันซึ่งอาจมีอาการเกิดขึ้นเองหรือมีปัจจัยบางอย่างกระตุ้น เช่น การถอดกางเกงชั้นใน การเปิดประตูห้องน้ำ การล้างมือด้วยน้ำเย็น หรือแม้กระทั่งการไขกุญแจบ้าน นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจมีอาการปัสสาวะบ่อย (มากกว่า 7 ครั้ง) และปัสสาวะบ่อยเวลากลางคืน (ตื่นขึ้นมาปัสสาวะมากกว่า 1 ครั้ง) ร่วมด้วย 3.
4 วิธีการรักษาอื่น ๆ ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่ยังคงมีอาการรุนแรงแม้จะได้รับการรักษาดังกล่าวข้างต้นแล้ว เช่น การกระตุ้นเส้นประสาททิเบียล (Tibial Nerve Stimulation)การกระตุ้นเส้นประสาทบริเวณกระดูกกระเบนเหน็บ (Sacral Nerve Stimulation) อย่างไรก็ตามการรักษาทั้งสองวิธีนี้ยังไม่เป็นที่นิยมทำในประเทศไทย เนื่องจากมีความยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายสูง และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มาก ด้วยความปราถนาดีจาก นายแพทย์พริษฐ์ วาจาสิทธิศิลป์ สูตินรีแพทย์ประจำ รพ. วิภาวดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม
ก่อนที่จะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เวลาปัสสาวะ ตอนใกล้จะสุด ปวดมากๆๆ หลัง จากนั้น ก็กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เป็น ทุกวัน มา 3-4 วันแล้ว ต้องกินยาหรือรักษาอาการอย่างไรค่ะ. ลำบากมากสำหรับชีวิตประจำวันค่ะ. รบกวนผู้รู้ช่วยด้วยนะคะ. ขอบคุณค่ะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻 แสดงความคิดเห็น
บริหารกล้ามเนื้อหูรูดให้แข็งแรงโดยฝึกขมิบกล้ามเนื้อหูรูดครั้งละประมาณ 5 วินาที หยุดขมิบ 10 วินาที แล้วทำซ้ำ 10 ครั้ง ในตอนเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มจำนวนครั้งขึ้น 2. ฝึกควบคุมการขับถ่าย พยายามกลั้นปัสสาวะให้นานขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะไปถ่ายปัสสาวะ เพื่อฝึกกระเพาะปัสสาวะให้สามารถกลั้นได้มากขึ้น 3. ขณะที่เข้าห้องน้ำไม่ควรเบ่งปัสสาวะอย่างรุนแรงและควรปัสสาวะให้หมด 4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่กระตุ้นให้ปัสสาวะบ่อย ได้แก่ ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม และงดสูบบุหรี่ 5. ไม่ดื่มน้ำมากเกินไปเพราะอาจทำให้สมองบวม ไตทำงานหนักและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด หากลองปฎิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นแล้ว อาการยังไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป การดูแลเอาใจใส่เรื่องการปัสสาวะหรือการขับถ่ายของผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นลูกหลานหรือคนในครอบครัว จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไปนะครับ...
การจดบันทึกการปัสสาวะ (Bladder Diary) คือ การจดบันทึกปริมาณปัสสาวะ เวลาที่ปัสสาวะ ปริมาณน้ำดื่ม และกิจกรรมที่ทำให้เกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ การจดบันทึกปัสสาวะเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญมากต่อการประเมินผู้ป่วยเนื่องจากอาจบ่งถึงสาเหตุและเป็นแนวทางในการรักษาได้อีกด้วย 2. การตรวจพื้นฐานอื่น ๆ (Simple Tests) ได้แก่ การวัดปริมาณปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง การจำลองภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้โดยการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง (Cough Stress Test) การวัดปริมาณปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะหลังจากปัสสาวะแล้วด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง 3. การตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะ (Urinanalysis) เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ เช่น การอักเสบ นิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ 4. การตรวจปัสสาวะพลศาสตร์ (Urodynamic Study) คือ การตรวจเพื่อจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในกระเพาะปัสสาวะโดยเริ่มตั้งแต่ปัสสาวะเติมในกระเพาะปัสสาวะ ปริมาณปัสสาวะที่กระเพาะปัสสาวะสามารถรับได้ จำลองภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ไปจนถึงสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะปัสสาวะ การตรวจนี้มักจะทำในผู้ป่วยที่การวินิจฉัยปัญหามีความซับซ้อนหรือผู้ป่วยที่มีแผนจะเข้ารับการผ่าตัด การรักษาที่ผู้ป่วยอาจได้รับ 1.
กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ต้องดูอะไรบ้าง, พิลาทิสง่าย ๆ ฝึกได้ที่บ้าน: คนสู้โรค (12 มี. ค. 63) - YouTube
5-2 ลิตรต่อวัน) อย่าเข้าห้องน้ำเว้นแต่จำเป็น และเมื่อคุณเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาเพื่อปัสสาวะออกให้หมด การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (หรือเรียกว่า Kegel exercises) ทำให้กล้ามเนื้อที่ควบคุมการปัสสาวะแข็งแรงขึ้น ดังนั้นจึงช่วยควบคุมภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานนั้นง่ายดายเพียงแค่ขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานครั้งละสามวินาที การบริหารนี้สามารถทำได้ทั้งวันทุกเวลา โดยไม่มีใครสังเกตว่าคุณกำลังทำมันอยู่ ข้อสังเกตที่สำคัญ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้อาจมีหลากหลายสาเหตุ และในหลายกรณีสามารถจัดการได้ง่าย อย่ารีรอที่จะขอคำปรึกษาจากแพทย์ของคุณ
มีเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะขับรถ ดิฉันอยู่แยกที่รถติดมาก ดิฉันก็ปวดฉี่นิดหน่อยคิดว่าพอทนได้ ถึงจุดหมายค่อยเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ทันจะถึงสามนาที ปวดจนทนไม่ไหว อยู่ดีๆก็ปวดมากทันทีแบบกลั้นไม่อยู่ มองหาอะไรบนรถที่พอจะใช้ได้ก็ไม่มี มองบริเวณรอบๆข้างถนนก็ไม่มีที่พึ่งพา กลั้นไม่อยู่จริงๆจึงตัดสินใจปล่อยในรถเลย กระแสน้ำอุ่นไหลผ่านร่องก้นอุ่นมากๆเลย หลังจากนั้นหักรถกลับบ้านทันที เหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันสงสัยว่า เมื่อก่อนสามารถกลั้นได้ แต่ทำไมตอนนี้ไม่ถึงสามนาทีมันไม่ไหวแล้ว หมายถึงอะไรยังไงค้ะ? แสดงความคิดเห็น