๑ ด้านขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะงานพระราชพิธีกระบวน พยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นพระราชพิธีโบราณ เรื่อง กาพย์เห่เรือนี้จะทำให้ผู้อ่านได้ความรู้ เกี่ยวกับพระราชพิธีนี้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีด้านอื่นๆ อีก เช่น การแต่งกาย การบอกเวลา ๓. ๒ การสร้างสรรค์งานศิลปะด้านวิจิตรศิลป์ คือ การสร้างโขนเรือเป็นรูปสัตว์ต่างๆ ทั้ง ความอ่อนช้อยหรือคึกคะนองเหมือนกับสัตว์ที่มีชีวิต นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นผลงานทาง ด้านสังคีตศิลป์ที่แสดงออกมาในรูปของการร้องเห่ประกอบดนตรี ๓. ๓ สะท้อนภาพภูมิศาสตร์ของประเทศไทยในสมัยนั้น จะเห็นได้ว่ามีแม่น้ำลำคลองมาก อาศัยการคมนาคมทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ จึงมีการสร้างยานพาหนะสำหรับใช้สัญจรทางน้ำ คือ เรือ กันมาก
๒๒๙๘ พงศาวดารกล่าวว่า มีผู้ทูลฟ้องว่าพระองค์เป็นชู้กับเจ้าฟ้าสังวาลและเจ้าฟ้านิ่ม พระสนมในสมเด็จ พระราชบิดา งานพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มีดังนี้ ๑. นันโทปนนทสูตรคำหลวง ๒. พระมาลัยคำหลวง ๓. กาพย์เห่เรือ ๔. กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ๕. กาพย์ห่อโคลงนิราศ ๖.
๑ การใช้อุปมา คือ การเปรียบเทียบ เช่น เลียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม ๒. ๒ การเล่นเสียงหรือสัมผัสพยัญชนะ เช่น เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตราตรู รวยรินกลิ่นรำเพย คิดพี่เคยเชยกลิ่นปราง นั่งแนบแอบเอวบาง ห่อนแห่ห่างว่างเว้นวัน ๒. ๓ การใช้คำที่ทำให้เกิดจินตภาพ เช่น เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน ๒. ๔ การเล่นคำ คือ การนำคำคำเดียวกันมาใช้ต่างความหมาย เช่น นวลจันทร์เป็นนวลจริง เจ้างามพริ้งยิ่งนวลปลา คางเบือนเบือนหน้ามา ไม่งามเท่าเจ้าเบือนชาย เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องฤาอ่อนทั้งกาย ใครต้องข้องจิตชาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง ๒. ๕ การซ้ำคำ ซ้ำเสียง ทำให้ย้ำหรือเน้นความรู้สึกยิ่งขึ้น เช่น เสียงสรวลระรี่นี้ เสียงใด เสียงนุชพี่ฤาใคร ใคร่รู้ เสียงสรวลเสียงทรามวัย นุชพี่ มาแม่ เสียงบังอรสมรผู้ อื่นนั้นฤามี ๒. ๖ การใช้คำที่ทำให้เกิดอารมณ์หรือความรู้สึกที่สะเทือนใจ เช่น แต่เช้าเท่าถึงเย็น กล้ำกลืนเข็ญเป็นอาจิณ ชายใดในแผ่นดิน ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ เรียมทนทุกข์แต่เช้า ถึงเย็น มาสู่สุขคืนเข็ญ หม่นไหม้ ชายใดจากสมรเป็น ทุกข์เท่า เรียมเลย จากคู่วันเดียวได้ ทุกข์ปิ้มปานมี ด้านสังคม ดีเด่นในแง่ต่อไปนี้ ๓.
ไม้ผลกลับกลายเป็นไม้ดอก ๒. ไม้ดอกกลับกลายเป็นไม้ผล ๓. มืดมัวไปทั่วทั้ง ๘ ทิศ คือ อุดร อีสาน บูรพา อาคเนย์ ทักษิณ หรดี ปัจจิม พายัพ ๔. เขม่นตาขวา ๕. ใจเหมือนจะขาด ๖. ขอบฟ้ากลายเป็นสีแดงสายเลือด ๗. กายรู้สึกเสียวๆ สั่นๆ ๘. ขอที่ใช้สอยผลไม้หลุดลงจากมือ ๙. ไม้คานพลิกลงจากบ่า ๔.
การเล่นเสียง ๒. ๑ การเล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะเสียงเดียวกันต่อๆ กันหลายคำ เช่น " ก็กลายเป็นดอกดวงเดียรดาษอนาถเนตร" " สะดุ้งพระทัยไหวหวาดวะหวีดวิ่งวนแวะเข้าข้างทาง พระทรวงนางสั่นระรัวริกเต้นดั่งตีปลา" " พระองค์เห็นพิรุธร่องรอยร้าวรานที่ตรงไหน ทอดพระเนตรสังเกตไว้แต่ปางก่อนจึงเคือง ค่อนด้วยคำหยาบยอกใจเจ็บจิตเหลือกำลัง" " พระพายรำเพยพัดมาฉิวเฉื่อย เรไรระรี่เรื่อยร้องอยู่หริ่งๆ" " ครั้นจะลีลาหลีกตัดเดาไปทางใดก็เหลือเดิน ทั้งสองข้างเป็นโขดเขินขอบคันขึ้นกั้นไว้" ๒. ๒ การเล่นเสียงสัมผัสสระ ที่เป็นเสียงเสนาะอันเกิดจากการเล่นเสียงสระ เช่น " นางก็ถึงวิสัญญีสลบลงตรงหน้าฉาน ปานประหนึ่งว่าพุ่มฉัตรทองอันต้องสายอัสนีฟาดระเนนเอนก็ล้มลงตรงหน้าพระที่นั่งเจ้า นั้นแล" ๒. ๓ การเล่นทั้งเสียงสัมผัสพยัญชนะและสระ เช่น " แม่ยังกลับหลังมาโลมลูบจูบกระหม่อมจอมเกล้าทั้งสองเรา" " เจ้าเคยเคียงเรียงเคียงหมอนนอนแนบข้างทุกราตรี" " โอ้แม่อุ้มท้องประคองเคียงเลี้ยงเจ้ามาก็หมายมั่น" ๓.
๒ การใช้ภาพพจน์แบบอุปลักษณ์เป็นการเปรียบว่าอีกสิ่งหนึ่ง "เป็น" หรือ "คือ" อีกสิ่งหนึ่ง เช่น "หวังว่าจะเป็นเกือกทองฉลองบาทยุคลทั้งคู่แห่งพระคุณผัว" "ก็น้ำใจของมัทรีนี้กตเวทีเป็นไม้เท้าก้าวเข้าสู่ทางทดแทน" ๔. ๓ การใช้ภาพพจน์แบบสัทพจน์เป็นการเลียนเสียง นอกจากนี้ยังมีการใช้สัทพจน์หรือคำเลียนเสียง ทำให้ข้อความมีชีวิตชีวานิ่งขึ้น เช่น "แต่ย่างเหยียบเกรียบกรอบก็เหลียวหลัง" "สมเด็จอรไทเธอเที่ยวตะโกนกู่กู๋ก้อง" "เสียงนกนี่ร่ำร้องสำราญรังเรียกคู่คูขยับขันทั้งจักจั่นพรรณลองไนเรไรร้องอยู่หริ่งๆ ระเรื่อยโรย" ๔. ๔ การใช้ภาพพจน์แบบบุคลวัต เป็นการใช้ภาพพจน์ที่มีชีวิตที่มิใช่มนุษย์และสิ่งไม่มีชีวิต ทำกิริยาอาการเลียนแบบมนุษย์ เช่น "ได้ยินแต่เสียงดุเหว่าละเมอร้องก้องพนาเวศ" "ทั้งพื้นป่าพระหิมพานต์ก็ผิดผันหวั่นไหวอยู่วิงเวียน" "เสียงเนื้อนกนี่ร่ำร้องสำราญรังเรียกคู่คูขยับขัน"
การใช้ภาพพจน์ ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีเป็นกัณฑ์ที่มีความไพเราะเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งการใช้ถ้อยคำสละสลวยทำให้ผู้อ่านเกิดจินตภาพด้วยการเลือกสรรความเรียงลักษณะต่างๆ โดยสื่อผ่านภาพพจน์ในหลายลักษณะ คือ ๔.
ที่มาของเรื่อง กาพย์เห่เรือเป็นงานประพันธ์ร้อยกรองเรื่องหนึ่งของไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นงานประพันธ์ที่มีคุณค่ายิ่งทั้งทางด้านวรรณศิลป์ ซึ่งมีการพรรณนาที่ไพเราะ มีการเล่นคำ เล่นเสียง การใช้ภาพพจน์ และทางด้านการสะท้อนภาพชีวิต วัฒนธรรมประเพณีของคนไทยสมัยก่อน ผู้แต่ง ผู้แต่งหรือผู้นิพนธ์กาพย์เห่เรือคือ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้ากุ้ง เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และสมเด็จพระพันวัสสาใหญ่ ประสูติเมื่อ พ. ศ. ๒๒๕๘ ขณะพระราชบิดายังทรงดำรงพระยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อพระราชบิดาขึ้นครองราชย์แล้วในปี พ. ๒๒๗๖ พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ และในปี พ. ๒๒๗๘ พระองค์ได้ทรงออกผนวชที่วัดโคกแสงอยู่ ๓ พรรษา เนื่องจากเกรงว่าพระราชบิดาจะลงโทษที่ใช้พระแสงดาบฟันเจ้าฟ้ากรมขุนสุเรนทรพิทักษ์ พระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งผนวชเป็นพระภิกษุอยู่ ภายหลังเมื่อพระมารดากราบทูลขอโทษให้จึงทรงลาผนวชและได้รับการสถาปนาเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เมื่อ พ. ๒๒๘๔ พระกรณียกิจ ที่สำคัญ คือ เป็นแม่กองบูรณปฏิสังขรณ์พระวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งถูกอสนีบาตผ่าตรงยอดมณฑป และเป็น แม่กองบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ที่ชำรุดทรุดโทรม ในเขตกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย ในบั้นปลายแห่งอายุ เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรถูกลงพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ เมื่อพ.
ร้าน D'Oro (ดิโอโร่) ดิโอโร่ (D'Oro) กาแฟไทยสไตล์อิตาเลียนที่มีสาขาพร้อมบริการกว่า 100 สาขา ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ดิโอโร่มีทั้งเมนูเครื่องดื่มร้อนและเย็น ไม่ว่าจะเป็นเอสเพรสโซ่ อเมริกาโน่ ลาเต้ มอคค่า ฯลฯ... เพิ่มเติม รูปยอดนิยม ค้นหาด้วยแผนที่
คุณค่าด้านสังคม ๑. สะท้อนค่านิยมเกี่ยวกับสังคมไทย ในสมัยโบราณถือว่าภรรยาเป็นทรัพย์สมบัติของสามี สามีมีสิทธิ์เหนือภรรยาทุกประการ ถ้าสามีเป็นกษัตริย์ อำนาจนั้นก็มากขึ้น ดังคำที่พระเวสสันดรตรัสแก่นางมัทรีว่า "... เจ้าเป็นแต่เพียงเมียควรหรือมาหมิ่นได้ ถ้าแม้นพี่อยู่ในกรุงไกรเหมือนแต่ก่อนเก่า หากว่าเจ้าทำเช่นนี้ กายของมัทรีก็จะขาดสะบั้นลงทันตาด้วยพระกรเบื้องขวาของอาตมานี้แล้วแล.. " นอกจากนี้ผู้หญิงจะต้องปรนนิบัติสามี ซื่อสัตย์ต่อสามี ส่วนลูกนั้นถือเป็นสมบัติของพ่อแม่ ต้องเครารพเชื่อฟัง และพ่อแม่สามารถยกลูกให้ผู้อื่นได้ ๒. สะท้อนให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ ความรักนำมาซึ่งความทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจ เช่น เมื่อลูกพลัดพรากจากไปพ่อแม่ย่อมมีความทุกข์เพราความรัก ความเป็นห่วง กังวล โศกเศร้า เมื่อคิดว่าลูกของตนล้มหายตายจากไป แต่ความโศกเศร้าเสียใจจะบรรเทาลงได้เมื่อมีความโกรธ เจ็บใจ หรือเมื่อเกิดความเข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นทำ ตัวอย่างเช่น ตอนที่พระเวสสันดรกล่าวบริภาษนางมัทรี เพื่อให้นางมัทรีจึงโกรธจนลืมความโศกเศร้า "... สมเด็จพระราชสมภาร เมื่อได้สดับสารพระมัทรีเธอแสนวิโยคโศกศัลย์สุดกําลัง ถึงแม้นจะมิตรัสแก่นางมั่งจะมิเป็นการ จําจะเอาโวหารการหึงเข้ามาหักโศกให้เสื่อมลง จึ่งเอื้อนโองการตรัสประภาษว่า.... " ๓.