จอฟ้า จะกระพริบ ภาพแตก หลายคนอาจเคยเจอกันมาบ้าง แต่กรณีที่เปิดเครื่องมาแล้วจอมืด ไม่แสดงผล ภาพไม่ขึ้น ไม่มีสัญญาณเข้า แบบนี้น่ากลัว เพราะหลายครั้งมันหมายถึงความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น จอเสีย การ์ดจอพังหรือเมนบอร์ด แรม ลาโลก แต่ก็อาจไม่ใช่เสมอไป อย่างน้อยๆ เรามาลองใช้วิธีตรวจเช็คและแก้ไขอาการจอมืด ไม่แสดงภาพด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้กันก่อน 1. เช็คว่าต่อสายถูกหรือไม่? อาการ ภาพไม่ขึ้น บางครั้งยกเครื่องมาใหม่ๆ ก็เผลอกันได้ เพราะบางรุ่นเมนบอร์ดก็มีพอร์ตแสดงผล การ์ดจอก็มี แต่ดันไปต่อพอร์ต DVI หรือ HDMI ที่พอร์ตด้านหลังเมนบอร์ด ซึ่งหากไม่ได้ตั้ง Output แบบ Auto เอาไว้ ภาพก็จะไม่ขึ้นจออยู่ดี วิธีแก้ก็แค่สลับสายไปต่อพอร์ตที่การ์ดจอ เท่านี้ก็ใช้งานได้แล้ว 2. เช็คที่พอร์ตและสายสัญญาณของจอด้วย ปัญหานี้ในบางครั้งก็ต้องสลับเช็คพอร์ตแสดงผลแต่ละพอร์ตด้วย เช่น การ์ดบางรุ่นมี HDMI หรือ DisplayPort หลายช่อง ให้ลองสลับไปแต่ละช่อง ว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ หรือถ้าสลับพอร์ตแล้วยังไม่เป็นผล ให้ลองเปลี่ยนใช้สายสัญญาณเส้นอื่นๆ ไปด้วย เพราะอาจเป็นที่สายต่อก็เป็นได้ 3. การ์ดจอไม่ได้ต่อไฟเลี้ยงหรือเปล่า? แต่ในบางกรณีอาการ ภาพไม่ขึ้น ก็อาจจะเกิดจากความพลั้งเผลอของผู้ใช้ เช่นเปลี่ยนการ์ดใหม่หรือขยับการ์ด แล้วลืมต่อไฟเลี้ยงจากเพาเวอร์ซัพพลายหรือต่อสายไม่ครบ บางรุ่นใช้ 6-pin หรือ 8-pin บางรุ่นใช้ทั้ง 6+8 pin ต้องต่อสายให้ครบก่อน การ์ดจอจึงจะทำงาน แต่ส่วนใหญ่ระบบจะแจ้งว่า ให้ต่อสาย Power connector บนตัวการ์ด 4.
96 Gbit/s รองรับความละเอียดสูงสุด 1920×1200 ส่วนแบบ Dual-link จะมีตำแหน่งของพินเพิ่มเติม โดยส่งสัญญาณบนแบนด์วิดธ์ 7. 92 Gbit/s รองรับความละเอียดสูงสุด 2560 x 1600 ทั้งนี้ ปัจจุบันนิยมใช้หัวต่อ DVI เป็นมาตรฐาน การ์ดจอส่วนใหญ่จะมีพอร์ต DVI มาให้นะครับ แต่ถ้าเราต้องใช้งานร่วมกับจอที่มีความละเอียดสูงๆ ก็แนะนำว่าให้ใช้ HDMI หรือ DisplayPort จะดีกว่า HDMI พอร์ต HDMI หรือ High-Definition Multimedia Interface เป็นพอร์ตที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานในด้านมัลติมีเดีย เนื่องจากข้อจำกัดของหัวต่อแบบ VGA และ DVI ที่ไม่สามารถนำสัญญาณเสียงได้ เพราะจอโทรทัศน์บางรุ่น จะมีลำโพงในตัว ดังนั้น HDMI จึงได้เข้ามาแก้ปัญหาในส่วนนี้ พอร์ต HDMI เริ่มเข้ามามีบทบาทกับจอมอนิเตอร์มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากแบนด์วิดธ์ที่มาก โดยในรุ่น 1. 4 สามารถส่งสัญญาณได้บนแบนด์วิดธ์ 10. 2 Gbps/s ซึ่งในช่วงแรกที่จอเริ่มมีความละเอียดสูงมากขึ้น HDMI จึงได้เข้ามาแทนที่ DVI ในจอระดับสูงหลายๆ รุ่น แต่เมื่อมีจอระดับ 4K เข้ามา แบนด์วิดธ์ของ HDMI 1. 4 จึงไม่เพียงพอ แม้จะสามารถใช้งานกับจอ 4K ได้ แต่เฟรมเรตจะทำได้แค่ 24 fps เท่านั้น จึงทำให้มีการพัฒนา HDMI 2.
คิดว่ามีเพื่อนๆ หลายคน สงสัยในเรื่องของการเลือกสายต่อจอมอนิเตอร์ จะใช้แบบไหนดี? HDMI ดีไหม? หรือเลือกแค่ VGA ก็พอ?
การต่อ PC เข้า TV การต่อ PC เข้า TV โดยใช้สายนั้น มีประโยชน์มาก ทำให้สามารถดูภาพยนตร์จาก PC ที่ความละเอียดสูง เล่นเกมส์ ทำการบรรยาย Present งาน โฆษณาสินค้า และแสดงผลต่างๆจากจอ PC ที่มีขนาดเล็ก ออกจอ TV ที่มีขนาดใหญ่ เช่น ขนาด 32", 46" และ 52" เป็นต้น และในบางกรณีก็ใช้แทน Projector ได้ การต่อแบบที่ใช้สายสัญญาณ โดยใช้สายสัญญาณนั้น ในปัจจุบัน PC รุ่นใหม่ๆ รวมทั้ง Laptop PC หรือ Notebook จะมีพอร์ต VGA Out และ HDMI Out ให้มาด้วย และสำหรับเครื่อง TV ก็จะมีพอร์ต VGA In และ HDMI In ให้มา ดังนั้น การต่อ PC เข้ากับ TV จึงนิยมทำดังนี้ 1. การต่อโดยใช้สาย VGA แบบที่มีหัวต่อ 2 ข้างเหมือนกันตามที่แสดงในรูปที่ 7 ซึ่งมีความยาวให้เลือก เช่น 3 เมตร 5 เมตร และ 10 เมตร การต่อทำได้โดยต่อขั้วข้างหนึ่งเข้าที่ PC และขั้วอีกข้างหนึ่ง ต่อเข้าที่ VGA Port ของ TV เมื่อต่อสายเสร็จแล้ว ใช้ Remote Control ตั้ง Menu --> เลือกแหล่งสัญญาณ --> PC ตามรูปที่ 8 ในการต่อโดยใช้สาย VGA จะไม่มีเสียงไปออกที่ TV ดังนั้น จะต้องต่อสายสัญญาณเสียง จากเครื่อง PC ไปยัง TV อีกชุดหนึ่งด้วย รูปที่ 7 สาย 8 การเลือก Input Source 2.
0 ที่รองรับจอระดับ 4K ได้ 60 fps อีกทั้งยังสามารถแสดงสีได้ในขนาด 10-12 บิตด้วย (รุ่น 1. 4 ได้แค่ 8 บิต) DisplayPort DisplayPort เป็นพอร์ตเชื่อมต่อใหม่ล่าสุดในขณะนี้ โดยในรุ่น 1-1. 1a รองรับการแสดงผลในอัตรา 144Hz บนความละเอียดระดับ 1080p ได้ ในขณะที่รุ่น 1. 2-1. 2a จะรองรับการแสดงผลในอัตรา 144Hz บนความละเอียดระดับ 1440p และสามารถแสดงผลในอัตรา 60 Hz บนความละเอียดระดับ 4K ได้ด้วย ส่วนรุ่นที่ใหม่กว่าอย่าง 1. 3 และ 1.