ความเร็วในการไหลของน้ำเสีย โดยทั่วไปแล้วความลาดเอียงของท่อแนวนอน จะเป็นตัวกำหนดความเร็วของน้ำภายในท่อ แต่อัตราการความเร็วในการล้างท่อด้วยตัวเองของท่อระบายน้ำเสียหรือความเร็วภายในท่อไม่ควรน้อยกว่า 0. 6 เมตร/วินาที เพื่อป้องกันไม่ให้เศษผงต่าง ๆ เกิดการตกตะกอนภายในเส้นท่อ และความเร็วสูงสุดไม่ควรเกิน 6 เมตร/วินาที เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของท่อระบายน้ำ ซึ่งความเร็วภายในท่อที่นิยมใช้อยู่ที่ประมาณ 2-3 เมตร/วินาที ส่วนความเร็วของน้ำที่ไหลออกมาจากปลายท่อ ไม่ควรมีความเร็วที่สูงเกินไปจนทำให้เกิดการกัดเซาะ ยกเว้นมีการทำโครงสร้างให้มีการป้องกันการกัดเซาะของน้ำ เช่น ใช้ดินทรายหรือดินตะกอนทำโครงสร้าง ความเร็วของการไหลที่ปลายท่อต้องไม่เกิน 1 เมตร/วินาที ในกรณีที่เป็นดินเหนียว ความเร็วที่ปลายท่อไม่ควรเกิน 1. 2 เมตร/วินาที ข้อควรระวังในการวางท่อระบายน้ำ ไม่ควรวางท่อให้ระดับปากท่อด้านล่างต่ำกว่าระดับดินเดิมของร่องน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการสะสมของตะกอนภายในเส้นท่อได้ และไม่ควรวางท่อให้ระดับปากท่อด้านล่างสูงกว่าระดับดินเดิม เพราะจะทำให้เกิดการกัดเซาะของน้ำบริเวณใต้ท่อระบายน้ำได้
ขนาดของท่อระบายน้ำ 1. ท่อระบายน้ำ ขนาด 20 x 100 ซม. ไม่เสริมเหล็ก 2. ท่อระบายน้ำ ขนาด 30 x 100 ซม. ไม่เสริมเหล็ก, เสริมเหล็ก มอก. ชั้น 3 3. ท่อระบายน้ำ ขนาด 40 x 100 ซม. 4. ท่อระบายน้ำ ขนาด 50 x 100 ซม. ไม่เสริมเหล็ก, เสริมเหล็ก มอก. ชั้น 2 และ 3 5. ท่อระบายน้ำ ขนาด 60 x 100 ซม. เสริมเหล็ก มอก. ชั้น 3 6. ท่อระบายน้ำ ขนาด 80 x 100 ซม. เสริมเหล็ก มอก. ชั้น 2, 3 และ 4 7. ท่อระบายน้ำ ขนาด 100 x 100 ซม. 8. ท่อระบายน้ำ ขนาด 120 x 100 ซม. 9. ท่อระบายน้ำ ขนาด 150 x 100 ซม. บทกำหนดสำหรับท่อระบายน้ำ คสล. 1. ส่วนผสมของคอนกรีตใช้ปูนปอร์ตแลนด์ หิน 3/8 " ทราย และส่วนผสมอื่น ๆ 2. ลวดเหล็กมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4, 6 และ 9 มม. 3. เป็นท่อแบบปากลิ้นราง คือ ปลายข้างหนึ่งบากเป็นบ่าที่ผิวด้านนอก และปลายอีกข้างหนึ่งบาก เป็นบ่าที่ผิวด้านใน เพื่อสวมสลับข้างกันได้อย่างเหมาะสม ขั้นตอนการวางท่อระบายน้ำ ทำการปรับแต่งร่องระบายน้ำที่ขุดหรือถมโดยให้มีความลาด ตามต้องการพร้อมกับทำการบดอัดพื้นรองรับท่อระบายน้ำให้แน่นพอสมควร รองพื้นด้วยทรายบดอัดแน่นหนา 5 ซม. 3. วางท่อระบายน้ำ ให้ได้ระดับตามลาดแนวให้ตรง
ควรมีระยะห่างไม่เกิน 100 เมตร ท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 700 – 1, 200 มม. ควรมีระยะห่างไม่เกิน 120 เมตร ท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1, 200 มม. ระยะห่างให้อยู่ในดุลยพินิจของวิศวกรและสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตาม การวางระยะห่างอาจมีความแตกต่างกันตามข้อกำหนด มาตรฐานและขนาดของ ท่อระบายน้ำ เช่น ในกรุงเทพมหานคร การวาง ท่อระบายน้ำ จะทำตามแบบมาตรฐานของกรุงเทพมหานคร โดยที่บ่อพักท่อระบายน้ำจะต้องมีระยะห่างระหว่างบ่อพักต้องไม่เกิน 15 เมตร ส่วนในนิคมอุตสาหกรรมมีการออกมาตรฐานว่าต้องวางให้มีระยะห่างไม่เกิน 40 เมตร สำหรับทางหลวงท่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร ต้องมีระยะห่างระหว่างบ่อพักไม่เกิน 8 เมตร และท่อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 – 1. 5 เมตร ต้องมีระยะห่างระหว่างบ่อพักไม่เกิน 16 เมตร ขึ้นอยู่ โดยต้องมีทุกจุดที่มีการเปลี่ยนขนาดท่อ และจุดบรรจบของท่อหรือรางระบายน้ำ 4. ความถี่และปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ ปริมาณน้ำฝนที่ใช้ในการออกแบบสำหรับการระบายน้ำฝนในเขตที่พักอาศัย มักคำนวณจากความถี่ของปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ระยะ 2 – 15 ปี และลักษณะพื้นที่ในแต่ละแห่ง ส่วนในเขตพาณิชย์ใช้การคำนวณความถี่ช่วงระยะ 10 – 50 ปี เช่น ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จะใช้เกณฑ์ปริมาณน้ำฝนไม่น้อยกว่า 5 ปี 5.
การขออนุญาตวางหรือเชื่อมท่อระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำทิ้งลงสู่เขตทางหลวง 1. การขออนุญาตระบายน้ำจากที่ดินริมเขตทางหลวงลงสู่เขตทางหลวง ผู้ขออนุญาตจะต้องแสดงแผนผังที่ตั้งของที่ดินและลำราง แม่น้ำ คลองต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงต่าง ๆ ซึ่งการระบายน้ำสองข้างทางหลวงไปต่อเชื่อมอยู่ หรือมิได้ต่อเชื่อมอยู่ก็ตาม เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาอนุญาต กรมทางหลวงจะอนุญาตให้มีการระบายน้ำลงสู่เขตทางหลวง เฉพาะบริเวณที่ท่อระบายน้ำหรือคูระบายน้ำ ของทางหลวงมีความจุหรือมีความสามารถเพียงพอที่จะรับปริมาณน้ำดังกล่าวได้ ทั้งนี้ผู้ขออนุญาตจะต้องเสนอเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้ 1. 1 ระบบการกำจัดน้ำเสียก่อนที่จะระบายน้ำลงสู่เขตทางหลวง ซึ่งมีสถาบันทางราชการหรือวิศวกร ที่ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมรับรอง 1. 2 ใบอนุญาตหรือความยินยอมจากกรมชลประทาน กรมเจ้าท่า ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้ดูแลลำราง แม่น้ำ คลอง ที่รับน้ำจากการระบายนั้น 1. 3 การะระบายน้ำจากอาคารทั่วไปไม่อยู่ในข่ายที่จะต้องมีการบำบัดน้ำเสีย จะต้องมีการก่อสร้างบ่อดักเศษขยะ ตะกอน และไขมัน 2. ข้อกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมดังนี้ 2. 1 ให้ก่อสร้างบ่อพักไขมันในที่ดินของผู้ขอฯ บริเวณริมเขตทางหลวงก่อนเชื่อมท่อระบายน้ำลงสู่ทางระบายน้ำ ในเขตทางหลวง และให้ผู้ขอฯจัดทำประตูน้ำสำหรับเปิดปิดเพื่อควบคุมการระบายน้ำไว้ด้วย ในกรณีที่น้ำระบายออกมาสกปรก จะสามารถปิดกั้นน้ำดังกล่าวไว้ได้ 2.
ท่อเมน เมื่อต่อระบบเข้ากับท่อย่อยแล้ว ก็ควรฝังกลบดิน เพื่อง่ายต่อการทำเกษตร (ยกเว้นวาล์วเปิดปิดน้ำ)
สนาม - สนามกีฬา สวนสาธารณะ สนามกอล์ฟ สนามหญ้าหน้าบ้าน 2. อุโมงค์ - รอบข้างและฐานของอุโมงค์ 3. พื้นถนน - ด้านล่างและข้างถนน, วางคู่ขนาทางรถไฟ 4. เนินเขา - บริเวณแนวเชิงเขา และแนวกำแพงป้องกัน 5. กำแพงบ้าน - กำแพงหรือร้ัวบ้านน้ำกัดเซาะมีโอกาสพังง่าย 6. ต้นไม้ใหญ่ - การปลูกต้นไม้ใหญ่โดยการล้อมมาจากที่อื่นต้องมีการระบายน้ำอย่างดี คุณลักษณะรายละเอียดท่อ โครงสร้างทั่วไปท่อ CROWNSWEAR Flexible Permeable Hose คุณสมบัติของวัสดุ 1. ขดลาดสปริงคาร์บอน - ส่วนผสมป้องกันสนิมเหล็ก - เคลือบด้วย PVC ให้ทนต่อการกัดกร่อนของกรดและด่าง - จากรูปทรงและความแข็งแรงของขดลวดสปริง สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี 2. มั่นใจในคุณภาพการกรองตะกอนที่จะเข้ามาสะสมในท่อระบายน้ำ 3.