ศ. 2532 [7] อ้างอิง [ แก้] แหล่งข้อมูลอื่น [ แก้] "พายุสุริยะ" Archived 2015-03-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ไทย)
วิดีโอแสดง เปลวสุริยะ ที่มาจากผิวดวงอาทิตย์ เนื่องจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ พายุสุริยะ ( อังกฤษ: Solar storm) เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดจากการที่ผิว ดวงอาทิตย์ ระเบิดขึ้นมาที่เรียกว่า "การระเบิดลุกจ้า" ซึ่งทำให้ อนุภาคประจุไฟฟ้า พุ่งออกมาจำนวนมหาศาล. ประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกมานี้จะรบกวนระบบการสื่อสาร ส่งผลทำให้การสื่อสารโทรคมนาคมเป็นอัมพาต เช่น ทำให้เครื่องบินไม่สามารถติดต่อกับหอบังคับการได้ โทรศัพท์มือถือใช้งานไม่ได้ รวมไปถึงดาวเทียมเสียหาย. การทำนายความรุนแรงของพายุสุริยะ สามารถทำได้โดยตรวจสอบ จุดมืดดวงอาทิตย์ เนื่องจากจุดมืดเกิดจากความแปรปรวนของ สนามแม่เหล็ก เมื่อมีจุดมืดมากขึ้นก็จะส่งผลให้อนุภาคกระแสไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น.
1705 เอ็ดมันด์ ฮัลเลย์ ค้นพบว่า ดาวหาง หลายดวงในบันทึกประวัติศาสตร์ที่จริงเป็นดวงเดิมกลับมาปรากฏซ้ำ ถือเป็นการพบหลักฐานชิ้นแรกสำหรับการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของวัตถุอื่นนอกเหนือจาก ดาวเคราะห์ [5] ในช่วงระยะเวลาเดียวกันนี้จึงเริ่มมีการใช้คำว่า "ระบบสุริยะ" ขึ้นเป็นครั้งแรก [6] ค. 1781 วิลเลียม เฮอร์เชล ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่คือ ดาวยูเรนัส โดยที่ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นดาวหาง [7] ต่อมาในปี ค. 1801 จิวเซปเป ปิอาซซี ค้นพบวัตถุโคจรอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นดาวเคราะห์ แต่ต่อมาจึงมีการค้นพบวัตถุขนาดเล็กนับเป็นพันดวงในย่านอวกาศนั้น ซึ่งในเวลาต่อมาจึงเรียกวัตถุเหล่านั้นว่า ดาวเคราะห์น้อย [8] ไม่อาจระบุได้แน่ชัดว่า ระบบสุริยะถูก "ค้นพบ" เมื่อใดกันแน่ แต่การสังเกตการณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 สามรายการสามารถบรรยายลักษณะและตำแหน่งของระบบสุริยะในเอกภพได้อย่างไม่มีข้อสงสัย รายการแรกเกิดขึ้นในปี ค. 1838 เมื่อฟรีดดริค เบสเซล สามารถวัด พารัลแลกซ์ ของดาวได้ เขาพบว่าตำแหน่งปรากฏของดาวเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของโลกที่โคจรไปรอบดวงอาทิตย์ นี่ไม่เพียงเป็นข้อพิสูจน์ทางตรงต่อแนวคิดดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล แต่ยังได้เปิดเผยให้ทราบถึงระยะทางมหาศาลระหว่างระบบสุริยะของเรากับดวงดาวอื่นเป็นครั้งแรก ต่อมาในปี ค.
ที่อยู่ข้างใต้น้ำแข็งหนาราวๆ 10-40 กม. และเป็นน้ำเค็มๆ ข้อมูลจากแมกนีโตมิเตอร์ที่หาเรื่องราวของสนามแม่เหล็กมาให้ก็ยืนยันความคิดนี้ คัลลิสโต กานีเมด ก็มีผลจากแมกนีโตมิเตอร์คล้ายๆกัน น่าจะมีน้ำด้วยเหมือนกัน สงสัยไตตัน จะมีทะเลน้ำใต้เปลือกแข็ง เหมือนๆกานีเมดและคัลลิสโต คอยไปก่อนหลังค. ศ. 2004 ก็คงจะรู้ได้แล้ว เพราะยานแคสสินีจะไปเอาข้อมูลมาบอก ส่วนใต้น้ำแข็งของไตตันและพลูโตน่าจะเป็นมหาสมุทรของน้ำ - แอมโมเนีย ยานอวกาศแถบพลูโต - คูเปอร์ที่จะปล่อยค. 2006 จะไปช่วยให้เห็นการเคลื่อนที่ของน้ำแข็งบนพลูโตถ้ามีการเคลื่อนไหวที่นั่น ดาวเคราะห์ที่น่าจะมีน้ำด้วยก็เห็น ยูเรนัสและเนปจูน ที่พอให้ความหวังบ้าง แต่น้ำของมันมีไฮโดรเจน มีเธน แอมโมเนียและอื่นอีกด้วย ผสมปนเปกันอยู่ ทั้งดาวเคราะห์และดาวบริวารที่กล่าวมานี้มันไกลจากดวงอาทิตย์มากแสงแดดส่องไปไม่ถึง ความร้อนที่จะให้น้ำเหลวได้ไม่ตกสภาพแข็งตัวมาจากไหนเมื่อที่โน่นเย็นจัด? คิดดีแล้วก็บอกว่า มาจากสารกัมมันตภาพรังสีและความร้อนที่อัดอั้นตอนเกิดระบบสุริยะช่วยกันทำให้น้ำเหลวได้ หากจะให้ทุกแห่งที่ๆมีน้ำต้องมีสภาพคล้ายโลกก็เป็นความคิดไม่ถูกต้อง วัตถุที่มีน้ำอาจไม่ต้องการแสงแดดอย่างโลกเรา ใกล้ไกลไม่สำคัญ ตำแหน่งไม่ได้กำหนดความเป็นน้ำ ขออย่าให้เห็นลาวาไหลเป็นทางอย่างดาวศุกร์หรือร้อนจัดเกินไป ที่ใดมีน้ำ.. มันให้ความหวังต่อไปว่าชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาในเอกภพ เขียนโดย ยุพา วานิชชัย
<< กุมภาพันธ์ >> อา จ อ พ พฤ ศ ส 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 พ. ศ. 2564 18 กุมภาพันธ์เมื่อปีก่อน พ. 2563 พ. 2562 พ. 2561 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 49 ของปี ตาม ปฏิทินสุริยคติ แบบ เกรกอเรียน เมื่อถึงวันนี้จะยังเหลือวันอีก 316 วันในปีนั้น (317 วันใน ปีอธิกสุรทิน) เนื้อหา 1 เหตุการณ์ 2 วันเกิด 3 วันถึงแก่กรรม 4 วันสำคัญและวันหยุดเทศกาล 5 แหล่งข้อมูลอื่น เหตุการณ์ [ แก้] พ. 2404 (ค. 1861) - มีการรวมชาติอิตาลีขึ้นอีกครั้งภายใต้ชื่อว่า ราชอาณาจักรอิตาลี พ. 2473 (ค. 1930) - ไคลด์ ทอมบอ ค้นพบ ดาวพลูโต อดีต ดาวเคราะห์ ดวงที่ 9 ของ ระบบสุริยะ พ. 2475 (ค. 1932) - ระหว่าง สงครามจีน-ญี่ปุ่น จักรวรรดิญี่ปุ่น ก่อตั้ง แมนจูกัว ในตะวันออกเฉียงเหนือของ ประเทศจีน แมนจูกัวเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแมนจูเรีย เป็น รัฐหุ่น สำหรับแผ่ขยายอำนาจ พ. 2522 (ค. 1979) - มีหิมะตกใน ทะเลทรายซาฮาร่า(الصحراء الكبرى)เป็นเวลา 30 นาที พ. 2534 (ค. 1991) - สถานี Paddington และ Victoria ที่ลอนดอน ถูกผู้ก่อการร้ายวางระเบิด วันเกิด [ แก้] พ. 2060 (ค. 1516) - สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ (สวรรคต 17 พฤศจิกายน พ.
ภาพกราฟิกของนาซ่า แสดงเมฆออร์ตและแถบไคเปอร์ ภาพกราฟิกแสดงเมฆออร์ตและแถบไคเปอร์ ภาพเปรียบเทียบความแตกต่างของระยะทางของเมฆออร์ตเปรียบเทียบกับขนาดของ ระบบสุริยะ เมฆออร์ต ( อังกฤษ: Oort cloud) คือ ชั้นเมฆในอวกาศที่ล้อมรอบ ระบบสุริยะ อยู่เป็นทรงกลม บริเวณเมฆเหล่านี้อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ออกไปราว 50, 000 - 100, 000 หน่วยดาราศาสตร์ จาก ดวงอาทิตย์ ไกลออกไปจากขอบระบบสุริยะรอบนอก ตำแหน่งของเมฆออร์ตอยู่ในระยะความห่าง 1 ใน 4 ของ ดาวแคระแดง พร็อกซิมาคนครึ่งม้า ในกลุ่มเมฆออร์ตนี้มี วัตถุพ้นดาวเนปจูน อย่าง ดาวเคราะห์แคระ 90377 เซดนา ที่ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ. ศ. 2546 อยู่ด้วย วัตถุในกลุ่มเมฆออร์ตคือเศษเหลือจากการสร้างดาวเคราะห์ เป็นก้อนน้ำแข็งสกปรก มีส่วนประกอบไปด้วย น้ำแข็ง คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน แอมโมเนีย ฝุ่น และ หิน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ไม่กี่กิโลเมตรไปจนถึงหลายสิบกิโลเมตร นักดาราศาสตร์เชื่อกันว่ากลุ่มเมฆออร์ตเป็นแหล่งต้นกำเนิดของ ดาวหาง เมฆออร์ตตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์ชาวดัตช์ ยัน แฮ็นดริก ออร์ต (Jan Hendrik Oort, 1900 - 1992) ซึ่งเขาได้ทำการวิเคราะห์เส้นทางการโคจรของดาวหาง 19 ดวงพบว่าดาวหางเหล่านี้มาจากแหล่งของดาวหางที่มีรูปร่างเป็นทรงกลมที่มีขนาดใหญ่มาก โดยอยู่ที่ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ตั้งแต่ประมาณ 1.
Search films: ทัวร์ชมทวิก ทดลองใช้ฟรี สมัครสมาชิก
ศ.