เป้าหมายในชีวิต โดย อับดุลอาซีซ โคพลัง เราทุกคนเกิดมาในโลกนี้ เราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าเราใช้ชีวิตในดุนยานี้ เรามีเป้าหมายอะไรในชีวิต?
ถ้าเราจะตั้งเป้าหมายอะไรก็ตาม ก็ต้องถามตัวเองกับคำถามนี้เสมอว่า "เป้าหมายที่ตั้งขึ้นมานั้น มันมีไปเพื่ออะไร? มันตอบโจทย์เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของเราหรือไม่? " ดูเหมือนจะเป็นคำถามง่ายๆ แต่ถ้าเราถามตัวเองแล้วคิดไม่ออกว่า ทำเป้าหมายนั้นไปเพื่ออะไร นั่นแสดงว่าเป้าหมายที่เราตั้งขึ้นมา มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หรือ ไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของเรา ถ้ามันใช่จริง เราต้องตอบได้ทันที ว่าเป้าหมายนั้นทำไปเพื่ออะไร หรือ ถ้าใช่จริงๆ เราก็จะไม่รีรอที่จะลงมือทำ เราจะลงมือทำทันที โดยไม่ต้องมีใครมาสั่ง หรือ มีใครมาเรียกร้องให้ทำ แต้ถ้ามันไม่ใช่ ต่อให้เราตั้งเป้าหมายไป ยังไงก็ไม่ทำ หรือ หากทำไป ก็ไม่สุดอยู่ดี ทำไปสักพักเดี๋ยวก็เลิก เป้าหมายที่ว่านี้ ก็จะวืด และ กลายเป็นเป้าบิน ที่ล่องลอยไป ไม่มีวันสิ้นสุด ความฝัน กับ เป้าหมายในชีวิต ใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่า? บางคนบอกว่า เขามีความฝัน อยากเป็นโน่น อยากเป็นนี่ แบบนี้ ถือว่าเป็นเป้าหมายไหม? "Dreams can inspire you but goals can change your life" "ความฝันมีไว้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป้าหมายมีเอาไว้เพื่อสร้างผลลัพธ์" นี่คือ คำอธิบายที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ความฝันต่างจากเป้าหมายอย่างไร?
วางขั้นตอนการปฏิบัติให้เหมาะสม มีแผนแล้ว ก็ต้องลงมือปฏิบัติ เพื่อทำให้แผนที่เป็นรูปธรรมนั้นเกิดขึ้นจริง เช่น ถ้าคุณอยากเป็นหัวหน้างาน มีอะไรบ้างที่คุณต้องทำ ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องเชี่ยวชาญในงานที่ทำ ดังนั้นคุณต้อง ฝึกฝน คุณต้องการวุฒิการศึกษาเพื่อประดับบารมี ดังนั้นคุณต้องไป เรียนต่อ คุณต้องการ คอนเนคชั่น เพื่อเพิ่มการต่อรอง พาตัวเองไปรู้จัก และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนที่เกี่ยวข้องในแวดวงงาน เป็นต้น 4. มุ่งมั่นและตั้งใจ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า การจะบรรลุถึงเป้าหมายอะไรบางอย่างนั้นต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก ไม่มีความสำเร็จใด ๆ ที่ได้มาโดยง่าย ดังนั้น เพื่อไม่ให้หลงทิศ คุณจะต้องมุ่นมั่นที่จะปฏิบัติตามความฝันของตัวเองอย่างแน่วแน่ และไม่หวั่นไหว ทุกครั้งที่เหนื่อย หรือหมดกำลังใจ คุณต้องไม่ลืมว่า คุณกำลังอยู่บนเส้นทางของนักล่าฝัน ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ดังที่ตั้งใจไว้ ที่สำคัญที่สุด อย่าโกงตัวเอง หรือพยายามทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องและศีลธรรม 5.
ไม่รู้ว่าตนเองควรจะมีเป้าหมายอะไรดี หรือ ไม่รู้จะตั้งเป้าหมายอย่างไร? บางคนบอกว่า ไม่รู้ว่าตนเองควรจะมีเป้าหมายอะไรดี หรือ ไม่รู้จะตั้งเป้าหมายอย่างไร? เรื่องนี้แอดมินเองก็ไม่สามารถบอกแทนคนถามได้ ว่าเขาหรือเธอ ควรจะต้องมีเป้าหมายแบบไหน อย่างไร? บางคนถึงกับไปถามหมอดู จริงๆ หมอดูเขาก็บอกไม่ได้ ถึงบอกมาก็คงจะมาจากเดาล้วนๆ ซึ่งที่ตอบไป ก็อาจจะเพื่อเอาใจ หรือ แค่ให้กำลังใจคนที่ถามก็ได้ เชื่อตัวเองเถอะครับ เพราะเรื่องเป้าหมายมันเป็นเรื่องของแต่ละคน เป็นเรื่องที่คนคนนั้น ต้องกำหนดเอง เพราะมันคืออนาคตของคนคนนั้น หากเป็นเรื่องของเรา อนาคตของเรา เป้าหมายของเรา ใครมันจะไปเข้าใจ หรือ รู้ใจเรา เท่าตัวเรา? อาจจะเป็นเพราะว่า ที่เราไม่รู้ใจตัวเอง ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่มั่นใจ?
ได้พบว่าไม่มีอะไรแน่นอน คุณจะได้พบสัจธรรมว่า บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสิ่งสามารถเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีสติ และยอมรับความจริง ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนไป หรือยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะถึงเป้าหมายหรือไม่ ชีวิตของคุณที่ยังมีอยู่ก็ต้องก้าวเดินไปต่อ.. Written by: Thexyz
"หากคุณไม่รู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางใด ท้ายที่สุดคุณก็อาจจะไปจบลงสักที่หนึ่ง ที่ๆ คุณไม่ได้หวังเอาไว้" – ลอวเรนซ์ เจ. ปีเตอร์ ( Lawrence J. Peter) เพราะฉะนั้น บุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และต้องรู้ว่า กำลังเดินหน้าไปทางไหน และไปทำอะไร ไม่ใช่ว่า เดินไปข้างหน้าโดยไม่มีจุดมุ่งหมาย 2. "ไม่มีวันยอมแพ้ นี่คือคำพูดที่ทำได้ง่ายที่สุด เพียงตั้งเป้าหมายแล้วอย่าหยุดพยายามจนกว่าจะสำเร็จ และเมื่อคุณทำได้สำเร็จ ก็จงตั้งเป้าหมายใหม่ขึ้นมา แล้วอย่าหยุดพยายามจนกว่าจะสำเร็จ นี่แหละ…ไม่มีวันยอมแพ้" – แบร์ ไบรอันท์ ( Bear Bryant) ถ้าหากตั้งเป้าหมายหรือฝันไว้อย่างชัดเจน จงอย่าหยุดพยายาม ทำทุกวิถีทางเพื่อให้คว้าฝันนั้นให้ได้ โดยไม่ท้อถอย ถึงแม้จะต้องเจอกับอุปสรรค และนี่คือสิ่งที่สร้างผู้ชนะ 3. "หากคุณรู้สึกเบื่อกับชีวิต และทุกๆ เช้าที่ตื่นนอนขึ้นมา ไม่ได้รู้สึกมีไฟที่จะทำอะไรเลย นั่นก็เพราะว่า ชีวิตของคุณไร้ซึ่งเป้าหมายนั่นเอง" – ลู โฮลทส์ ( Lou Holtz) การมีเป้าหมายที่เราตั้งฝันไว้ ก็เหมือนกับการมีอะไรให้เราเฝ้าติดตามผลลัพธ์ของมันในทุกๆ วันที่เราตื่นขึ้นมา การไม่มีเป้าหมายในชีวิตจึงไม่ต่างอะไรกับเรือที่ไร้หางเสือ ล่องลอยไปตามคลื่นลม โดยไม่รู้ว่าจะถึงฝั่งเมื่อใด 4.
เป้าหมายในชีวิต จำเป็นต้องมีไหม? อาจจะหาคำตอบยากไปหน่อย แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นคำถามใหม่ว่า หากเราไม่มีเป้าหมายชีวิตของเราจะลงเอยอย่างไร? คนที่ไม่มีเป้าหมาย ชีวิตของเขาจะลงเอยอย่างไร? เราคงเคยเห็น หรือ อาจจะเคยเป็นเหมือนกันใช่ไหม ในบางช่วงบางตอนของชีวิต ที่ทำงานไปวันๆ อยู่ไปวันๆ หรือ ทำแต่เรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเบื่อหน่าย ไร้ความตื่นเต้น บางคนอาการหนักหมดไฟในการทำงานไปในที่สุด การไม่มีเป้าหมาย มันก็คล้ายๆ กับการปล่อยชีวิตของตัวเราเอง เดินไปตามยถากรรม หรือ ใช้ชีวิตไปตามที่คนอื่นบอก หรือ กำหนดให้ แล้วถ้าชีวิตของเราต้องเป็นแบบนี้ เราจะโอเคไหม? เราควรมีเป้าหมายไปเพื่ออะไร? เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ น่าจะเป็นคำถามหลักๆ ที่เราต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร เป้าหมาย หรือ Goals เป็นส่วนนึงของเหตุผลหลักที่เรามีชีวิตอยู่ แต่หลายคนก็พลาดที่ตรงนี้ ไม่มีเป้าหมาย หรือ ไม่ตั้งเป้าหมาย ก็เลยทำให้ชีวิตไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป หรือ หาเหตุผลเพื่อขับดันชีวิตตนเองให้ดีขึ้นไม่ได้ ทำไม เราไม่ลองตั้งเป้าหมาย ด้วยการทำอะไรที่ท้าทาย เพื่อตัวเองสักครั้งบ้างเหรอครับ เพราะการมีเป้าหมาย คงไม่ได้มีเอาไว้อวดใคร หรือ เอาไว้บนหิ้ง แต่มีเอาไว้เพื่อเป็นคำตอบของบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องการ แล้วพวกเราคิดว่า เราควรมีเป้าหมายไหม และ ถ้ามี มีไปเพื่ออะไร?
ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เมื่อคุณตั้งเป้าหมาย และหากคุณลงมือทำแล้วมาถึงเส้นชัยอย่างที่คุณตั้งใจไว้ คุณจะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และนั่นคือพลังงานที่สามารถเติมเต็มให้คุณมีกำลัง แรงใจ ที่จะสามารถทำอะไรต่อมิอะไรต่อไปได้ 2. ทำให้มีพลัง มีแรงบันดาลใจ เมื่อเจออุปสรรค อาจมีบางช่วงเวลาทำให้คุณรู้สึกท้อ หรืออยากหยุด แต่เมื่อได้มองเห็นถึงเป้าหมายชัดเจนที่คุณตั้งไว้ มันก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจชั้นดี ทำให้คุณอยากลุกขึ้นมาเพื่อเดินหน้าต่อไป แม้จะเจออุปสรรคก็ลุยต่อ เพราะคุณชัดเจนกับตัวเองแล้วว่าจะต้องไปให้ถึงปลายทางให้จงได้! 3. หากไม่สำเร็จจะได้รู้จักวิธีแก้ปัญหา หากเป้าหมายไม่เป็นอย่างที่ตั้งหวัง คุณก็จะได้เรียนรู้ว่าความผิดพลาดมันคืออะไร การผิดหวังมันรู้สึกอย่างไร และคุณจะมีวิธีที่จะผ่านมันไปได้อย่างไร มันจะกลายเป็นประสบการณ์ชีวิตที่สอนให้คุณเติบโต และเป็นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เมื่อต้องเจอปัญหาอีกคุณจะผ่านมันไปได้ง่ายกว่าครั้งแรกๆ 4. ได้เรียนรู้ตัวเอง และคนอื่น ระหว่างทางกว่าจะถึงเป้าหมาย คุณจะได้เรียนรู้ลักษณะนิสัยใจคอทั้งของตัวเอง และผู้อื่น ที่อยู่ในวงโคจรของคุณ ใครบ้างที่คอยอยู่เคียงข้าง ใครบ้างที่คอยช่วยเหลือ และใครบ้างที่ทำให้คุณยิ้ม ใครบ้างที่ทำให้คุณต้องเสียน้ำตา หรือใครบ้างที่คุณไปทำให้เขาต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ทุกๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันจะกลายเป็นประสบการณ์ที่สอน และทำให้คุณเติบโต และแข็งแกร่งขึ้น 5.
"สิ่งที่อันตรายที่สุดไม่ใช่การที่เราตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินแล้วตกลงมา แต่กลับเป็นการที่เราตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไปแล้วทำได้สำเร็จต่างหาก" – ไมเคิล แองเจโล ( Michelangelo) เพราะฉะนั้น มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่เราจะเอาแต่มุ่งหวังผลเล็กๆ น้อยๆ กับการตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไป ซึ่งผลสำเร็จที่สำคัญที่สุด คือการตั้งเป้าหมายไว้สูงๆ แล้วทำมันให้สำเร็จ 9. "คุณไม่มีวันแก่เกินไปหรอก ที่จะตั้งเป้าหมายใหม่ๆ หรือวาดความฝันครั้งใหม่ขึ้นมา" – ซี. เอส. ลิวอิส ( C. S. Lewis) ความคิดที่ว่า คุณแก่เกินกว่าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ที่จะตั้งเป้าหมายใหม่ๆ หรือมีความฝันอีกครั้ง เป็นความคิดที่ผิด เพราะเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณมีความคิด และอยากตั้งเป้าหมายใหม่ คุณก็สามารถทำได้ตลอดเวลา 10. "จงตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ เพราะถึงแม้ว่าคุณจะไปไม่ถึง คุณก็ยังได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดาว" – เลส บราวน์ ( Les Brown) ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่า การมีฝันอันยิ่งใหญ่ ซึ่งก็เหมือนกับการตั้งเป้าหมายไว้ที่ดวงจันทร์ ถึงแม้จะไปไม่ถึง อย่างน้อยก็มีความสุขกับเส้นทางเป้าหมายนั้นๆ เคล็ดลับโค้ชฝากบอก ดูเคล็ดลับทั้งหมด »
เป้าหมายที่ชัดเจน เป็นสิ่งกำหนดทิศทางความคิด คำพูด และการกระทำ เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตคนเรามีความก้าวหน้า "การตั้งเป้าหมาย" เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่จะดึงดูดสู่สิ่งที่เรา "ต้องการจะเป็น" หรือ "ต้องการจะมีได้" เป็นพลังใจขับเคลื่อนความสำเร็จ โดย Pansasiri 30 ม. ค. 2561 - 15. 17 น., แก้ไขเมื่อ 30 ม. 25 น. 7. 2 พัน ผู้เข้าชม Tags: เป้าหมายระดับที่ ๑ (บนดิน) ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ เป็นหลักธรรมใน พุทธศาสนา คือ ประโยชน์ในปัจจุบัน ๔ อย่าง บ้างเรียกว่า หัวใจเศรษฐี "อุ อา กะ สะ" หรืออาจเรียกเต็ม ๆ ว่า ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม ๔ หมายถึง ธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ในปัจจุบัน หลักธรรมอันอำนวยประโยชน์สุขขั้นต้น เพื่อประโยชน์สุขสามัญที่มองเห็นกันในชาตินี้ ที่คนทั่วไปปรารถนา มี ทรัพย์ ยศ เกียรติ ไมตรี เป็นต้น อันจะสำเร็จด้วยธรรม ๔ ประการ คือ ๑. อุฏฐานสัมปทา ถึงพร้อมด้วยความหมั่น เช่นขยันหมั่นเพียร เลี้ยงชีพด้วยการหมั่นประกอบการงาน เป็นผู้ขยันไม่เกียจคร้านในการงานนั้น ประกอบด้วยปัญญาเครื่องสอดส่อง อันเป็นอุบายในการงานนั้น ให้สามารถทำได้สำเร็จ ๒. อารักขสัมปทา ถึงพร้อมด้วยการรักษาโภคทรัพย์ (ที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร โดยชอบธรรม) เขารักษาคุ้มครองโภคทรัพย์เหล่านั้นไว้ได้พร้อมมูล ไม่ให้ถูกลัก หรือทำลายไปโดยภัยต่างๆ ๓.